รู้จัก Bear Trap และ จิตวิทยาตลาดในการเทรด (Market Psychology & Traps)

4

การเทรดในตลาดการเงินต้องอาศัยทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและความเข้าใจจิตวิทยาตลาด กราฟจิตวิทยาการเทรดช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนในแต่ละช่วงของวัฏจักรราคา รวมถึงกับดักตลาด เช่น Bear Trap และ Bull Trap ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของเทรดเดอร์ หากเทรดเดอร์สามารถระบุจังหวะที่เหมาะสมและเข้าใจพฤติกรรมของตลาดได้ จะช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Market Psychology & Traps
Bitcoin bear trap, market psychology. Source: Sensei

ช่วงขาขึ้นและการสะสม

การสะสม (Accumulation)

เป็นช่วงที่แนวโน้มขาลงสิ้นสุด นักลงทุนรายใหญ่เริ่มสะสมสินทรัพย์โดยที่ราคายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ปริมาณการซื้อขายในช่วงนี้ยังต่ำ แต่เริ่มมีสัญญาณของแรงซื้อจากนักลงทุนที่ต้องการเข้าสู่ตลาดก่อนที่แนวโน้มขาขึ้นจะเริ่มต้น

การเกิดแนวโน้ม (Trend Emergence)

ราคามีสัญญาณฟื้นตัว นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แนวโน้มขาขึ้นเริ่มเป็นที่สังเกตได้จากการที่ราคาสร้างจุดสูงใหม่และมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น

แรงโมเมนตัมเพิ่มขึ้น (Momentum Building)

แรงซื้อเริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ราคาปรับตัวขึ้นและเริ่มเห็นแนวโน้มที่ชัดเจน นักลงทุนรายย่อยเริ่มเข้ามาซื้อเพราะเห็นสัญญาณบวกจากกราฟและข่าวสารที่เริ่มเผยแพร่เกี่ยวกับสินทรัพย์นั้น ๆ

การเขย่าตลาด (Shake-out)

ราคามีการปรับฐานลงเพื่อกำจัดนักลงทุนที่ขาดความมั่นใจ นักลงทุนที่มีประสบการณ์มักถือสถานะต่อไปในช่วงนี้ เพราะมองว่าเป็นเพียงการพักตัวของราคา และใช้โอกาสนี้ในการเข้าซื้อเพิ่ม

กับดัก Bear Trap

Bear Trap คือสถานการณ์ที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญ ทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่าตลาดจะกลับตัวเป็นขาลง จึงขายออกหรือเปิดสถานะ Short แต่สุดท้ายราคากลับตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนเหล่านั้นต้องปิดสถานะขาดทุน

วิธีระบุ Bear Trap

  • ราคาทะลุแนวรับแต่ไม่มีแรงขายต่อเนื่อง ซึ่งบ่งบอกว่าอาจเป็นสัญญาณหลอก
  • ปริมาณการซื้อขายลดลงเมื่อราคาหลุดแนวรับ ซึ่งหมายความว่าไม่มีแรงขายมากพอที่จะทำให้ราคาลดลงต่อ
  • สัญญาณจาก RSI หรือ MACD แสดง Divergence โดยราคาลงแต่ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคกลับไม่ได้ลดลงตาม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังเตรียมกลับตัว
  • รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว เช่น Hammer หรือ Bullish Engulfing ซึ่งเป็นสัญญาณว่าราคาพร้อมที่จะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

วิธีหลีกเลี่ยง Bear Trap

  • รอการยืนยันแนวโน้มก่อนเข้าทำการเทรด อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากการทะลุแนวรับเพียงอย่างเดียว
  • ใช้คำสั่งหยุดขาดทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง หากราคากลับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง จะช่วยลดการขาดทุน
  • ศึกษารูปแบบแท่งเทียนและปริมาณการซื้อขายประกอบการวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

จุดพีคของตลาดและการกลับตัว

ความหวังใหม่ (Renewed Optimism)

นักลงทุนยังเชื่อว่าราคาจะขึ้นต่อไป จึงมีการเข้าซื้อเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเริ่มมีแรงขายจากผู้ที่ถือสถานะมานานและต้องการทำกำไร

ความกลัวตกรถ (FOMO)

นักลงทุนทั่วไปเริ่มตื่นตระหนกและรีบเข้าซื้อเพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสในการทำกำไร แรงซื้อในช่วงนี้มักมาจากนักลงทุนที่ไม่มีแผนการเทรดที่ชัดเจน ซึ่งอาจนำไปสู่การติดดอย

ภาวะอิ่มตัวของตลาด (Euphoria)

เป็นช่วงที่ราคาสูงสุด นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้เล่นรายใหญ่เริ่มทยอยขายทำกำไร

กับดัก Bull Trap

ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ไม่สามารถรักษาระดับได้ นักลงทุนที่เข้าซื้อในช่วงนี้อาจติดดอยเมื่อตลาดเริ่มปรับฐานลง ราคาที่ดูเหมือนจะพุ่งขึ้นต่ออาจเป็นแค่สัญญาณหลอก และหลังจากนั้นราคาจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว

ช่วงขาลงและสิ้นสุดแนวโน้ม

การแตกของแนวโน้มขาขึ้น (Breakdown)

ราคาปรับตัวลงอย่างรุนแรง นักลงทุนเริ่มขายออกเพราะกลัวว่าจะขาดทุนหนักขึ้น

ความกลัวและการยอมแพ้ (Fear and Capitulation)

นักลงทุนจำนวนมากเริ่มขายสินทรัพย์ทิ้งเนื่องจากไม่สามารถทนต่อการขาดทุนได้อีกต่อไป แรงขายในช่วงนี้มักเกิดจากอารมณ์และไม่ใช่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

การหาจุดต่ำสุด (Bottom Fishing)

นักลงทุนที่มีประสบการณ์เริ่มกลับมาเข้าซื้อ แต่ส่วนใหญ่มักรอดูสัญญาณยืนยันแนวโน้มกลับตัวก่อนตัดสินใจเข้าตลาดอีกครั้ง

ความสิ้นหวัง (Despair)

เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่น ตลาดเคลื่อนไหวอย่างซบเซาก่อนเริ่มเข้าสู่ช่วงสะสมใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ในราคาต่ำเพื่อเข้าสะสม

กลยุทธ์การเทรดเพื่อลดความเสี่ยง

  • หลีกเลี่ยงการเข้าซื้อเมื่อเกิดภาวะ Euphoria หรือ FOMO เพราะมีโอกาสสูงที่ตลาดจะกลับตัว
  • ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น RSI, MACD และ Volume เพื่อช่วยยืนยันแนวโน้ม และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจจากอารมณ์
  • ตั้งจุดหยุดขาดทุนเพื่อป้องกันการขาดทุนมากเกินไป ควรมีแผนรองรับสำหรับทุกการเทรด
  • ไม่ตัดสินใจเทรดโดยใช้อารมณ์ ให้ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อให้การตัดสินใจมีเหตุผลและลดความเสี่ยง

คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Ethereum เผชิญความไม่แน่นอน กิจกรรม On-Chain ลดลง แต่การสะสมจากวาฬยังสร้างความหวัง
บทความถัดไปสรุปข่าวคริปโตประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025: Bitcoin ร่วง, Kraken ถอด USDT, เอลซัลวาดอร์สะสม BTC ต่อเนื่อง