Catslap ($SLAP) หนึ่งในเหรียญ Meme Coin ที่กำลังได้รับความสนใจ ได้ดำเนินการเผาโทเค็นมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อลดอุปทานหมุนเวียนและเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตของราคา การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของตลาด Meme Coin ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2025
การเผาโทเค็นและผลกระทบต่อมูลค่า
การเผาโทเค็นเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการ ลดปริมาณโทเค็นที่หมุนเวียนในตลาด ส่งผลให้เกิด ความขาดแคลน และอาจกระตุ้นให้ราคาของโทเค็นพุ่งสูงขึ้น Catslap ได้เผาโทเค็น SLAP จำนวนมหาศาลเพื่อลดอุปทานและเพิ่มมูลค่าให้กับโทเค็นของตนเอง
“การเผาโทเค็นมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์จะช่วยลดแรงกดดันในการขายและสร้างสภาพคล่องที่แข็งแกร่งขึ้น” ทีมงานของ Catslap กล่าว
กิจกรรม Slap-to-Earn และ Slapdrop เพื่อดึงดูดชุมชน
Catslap ไม่เพียงแค่ใช้กลยุทธ์การเผาโทเค็น แต่ยังเปิดตัว “Slap-to-Earn” ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ที่ให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็น SLAP
นอกจากนี้ Catslap ยังได้จัดกิจกรรม “Slapdrop” ซึ่งเป็นแคมเปญแจกรางวัลมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้ที่เข้าร่วมและมีผลงานโดดเด่น
กลยุทธ์ซื้อคืนโทเค็นมูลค่ากว่า 533,000 ดอลลาร์
นอกจากการเผาโทเค็นแล้ว Catslap ยังได้ดำเนินการ ซื้อคืนโทเค็นจากตลาดมูลค่ากว่า 533,281 ดอลลาร์ เพื่อช่วยสนับสนุนราคา SLAP และลดแรงขายของนักลงทุน
“การซื้อคืนโทเค็นเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับโทเค็นของเรา และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนในระยะยาว” ทีมงาน Catslap ระบุ
แนวโน้มของ Meme Coin ในปี 2025
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่าปี 2025 อาจเป็นช่วงที่ตลาด Meme Coin กลับมาบูมอีกครั้ง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล Catslap กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ กระแสตลาดขาขึ้น ของ Meme Coin ผ่านกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเผาโทเค็น การซื้อคืน และกิจกรรมที่ดึงดูดชุมชน
สรุป
Catslap ($SLAP) ได้ดำเนินกลยุทธ์เผาโทเค็นมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งซื้อคืนโทเค็นและจัดกิจกรรม Slapdrop เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุน กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตของ SLAP และเตรียมความพร้อมสำหรับกระแส Meme Coin Bull Run ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2025
แหล่งที่มา: InsideBitcoins
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง