ดัชนีความกลัวและความโลภ

Crypto Fear and Greed Index (Indicator)

ตัวชี้วัด Market Sentiment สามารถช่วยให้นักลงทุนเข้าใจอารมณ์ของตลาดและวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีเหตุผล โดยไม่ทำตามอารมณ์ของตลาดจนเกินไป ควรใช้อินดิเคเตอร์นี้ควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยอื่น ๆ เพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบและแม่นยำยิ่งขึ้น

การแบ่งระดับคะแนนและความหมาย

Crypto Fear and Greed Index คือ ดัชนีวัดอารมณ์ของตลาดคริปโต ซึ่งแสดงถึงระดับ “ความกลัว” (Fear) และ “ความโลภ” (Greed) ของนักลงทุน โดยใช้คะแนนตั้งแต่ 0-100

0-24: Extreme Fear (ความกลัวอย่างสุดขีด)

    • นักลงทุนมีความกังวลสูงและเกิดความกลัวอย่างมาก
    • มักเกิดในช่วงตลาดขาลง ราคาสินทรัพย์ตกแรง นักลงทุนขายสินทรัพย์เพื่อหนีความเสี่ยง
    • โอกาส: เป็นช่วงที่ราคามักอยู่ในระดับต่ำ และอาจเหมาะแก่การเข้าซื้อ (ซื้อเมื่อคนอื่นกลัว)

25-49: Fear (ความกลัว)

    • ตลาดยังคงอยู่ในสภาวะกังวล แต่ไม่รุนแรงเท่าความกลัวขั้นสุดขีด
    • นักลงทุนเริ่มระมัดระวังและลังเลในการซื้อขาย
    • สัญญาณ: ตลาดอาจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวหรือหาจุดกลับตัว

50-74: Greed (ความโลภ)

    • นักลงทุนมีความมั่นใจสูงและเริ่มแห่เข้าซื้อสินทรัพย์
    • มักเกิดขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้น และตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น
    • ข้อควรระวัง: แม้จะดูเป็นบวก แต่ควรระมัดระวังฟองสบู่ราคาที่อาจเกิดขึ้น

75-100: Extreme Greed (ความโลภอย่างสุดขีด)

    • ตลาดเต็มไปด้วยความมั่นใจและความโลภอย่างมาก นักลงทุนจำนวนมากเข้าซื้อโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง
    • มักเกิดขึ้นในช่วงราคาพุ่งขึ้นแรง และอาจนำไปสู่การขายทำกำไร (Take Profit) หรือการปรับฐานของราคา
    • สัญญาณเตือน: ตลาดอาจอยู่ในสภาวะฟองสบู่ และควรพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

ประโยชน์ของการใช้ Crypto Fear and Greed Index

  1. ช่วยประเมินสภาวะตลาด – ดัชนีนี้ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่า ตลาดอยู่ในช่วงความกลัวหรือความโลภ ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อมูลสำหรับตัดสินใจลงทุน

  2. ค้นหาโอกาสซื้อขาย

    • หากดัชนีอยู่ที่ Extreme Fear (กลัวสุดขีด) อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงราคาต่ำ และอาจเป็นโอกาสซื้อ
    • หากดัชนีอยู่ที่ Extreme Greed (โลภสุดขีด) อาจบ่งบอกว่าตลาดอยู่ในภาวะฟองสบู่ และอาจถึงเวลาทำกำไร
  3. วิเคราะห์แนวโน้มตลาด – การติดตามค่าดัชนีเป็นประจำช่วยให้นักลงทุนเห็น แนวโน้มทางจิตวิทยาของตลาด และคาดการณ์ความผันผวนล่วงหน้า

  4. ลดอารมณ์ในการลงทุน – นักลงทุนมักได้รับผลกระทบจาก FOMO (กลัวตกรถ) หรือ Panic Selling (ตื่นตระหนกเทขาย) การใช้ดัชนีนี้ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น

  5. ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ – ดัชนีนี้ไม่ได้เป็นสัญญาณซื้อขายโดยตรง แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับ การวิเคราะห์กราฟเทคนิค (Technical Analysis) และ ปัจจัยพื้นฐานของตลาด (Fundamental Analysis) จะช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สรุป: ข้อแนะนำในการใช้งาน

  1. Extreme Fear → เป็นช่วงโอกาสในการเข้าซื้อ เพราะคนส่วนใหญ่ขายออกจากความกลัว
  2. Fear → จับตาดูโอกาสการฟื้นตัว และดูสัญญาณการกลับตัวของตลาด
  3. Greed → ติดตามอย่างระมัดระวัง ควรเริ่มพิจารณาขายทำกำไรหากถือสินทรัพย์มานาน
  4. Extreme Greed → ระมัดระวังการเกิดฟองสบู่หรือการปรับฐาน ควรประเมินจุดขายทำกำไรหรือถือเงินสดบางส่วน