นักลงทุนในเอเชียกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวของ ตลาดคริปโต และ ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 โดยมีปัจจัยสำคัญจากการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดการเงินโลก
ปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ กระทบตลาดคริปโต
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่นักลงทุนเอเชียกำลังให้ความสนใจคือความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ซึ่งอาจมีผลต่อการกำหนดนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ รวมถึงบทบาทของ ดอลลาร์สหรัฐ ในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก
การกลับมาของ Donald Trump ในฐานะผู้เล่นสำคัญทางการเมืองยังสร้างความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายที่อาจส่งผลดีต่อตลาด คริปโตเคอเรนซี โดย Trump เคยแสดงจุดยืนเชิงบวกต่อการลดกฎระเบียบทางการเงิน ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ตลาดคริปโตในสายตานักลงทุนเอเชีย
นักลงทุนจากเอเชียมองว่า คริปโตเคอเรนซี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและโอกาสในการทำกำไรสูง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในตลาดดอลลาร์สหรัฐอาจทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) และเหรียญหลักอื่น ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดเอเชียยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนมูลค่าของ คริปโต จากปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอย่าง จีน และ ญี่ปุ่น ซึ่งมีนักลงทุนที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างดอลลาร์และคริปโต
ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศทางตลาดการเงินโลก หากมีการอ่อนค่าลง นักลงทุนจำนวนมากอาจมองหาสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำหรือคริปโต ซึ่งมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดั้งเดิม
ในทางกลับกัน การแข็งค่าของดอลลาร์อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาของ Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังในการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเป็นตัวกลางทางการเงินยังคงสร้างโอกาสให้กับตลาดนี้
บทสรุป: นักลงทุนเอเชียยังคงจับตามองการเคลื่อนไหวของตลาด ดอลลาร์สหรัฐ และ คริปโตเคอเรนซี อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงหลังการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจโลก
แหล่งที่มา: Cryptopolitan
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง