Tether ผู้ให้บริการ สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) รายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเตรียมความพร้อมในการนำ USDT ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ มาใช้งานบนเครือข่าย Bitcoin และ Lightning Network Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ได้ประกาศเรื่องนี้บนเวทีการประชุม Bitcoin ที่จัดขึ้นในประเทศเอลซัลวาดอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
การผสานรวมที่สำคัญระหว่าง Tether และ Bitcoin
การผสานรวมนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้ง Tether และ Bitcoin ซึ่งเป็นสองกำลังสำคัญในวงการ คริปโทเคอร์เรนซี ปัจจุบัน USDT มีมูลค่าตลาดมากกว่า 139 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกใช้โดยผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกในฐานะ สื่อกลางการชำระเงินที่ปลอดภัย ที่ช่วยเชื่อมโยงการเงินแบบดั้งเดิมกับเศรษฐกิจคริปโต
บทบาทของ Lightning Network ในการขยายขีดความสามารถของ Bitcoin
แม้ว่า Bitcoin จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก แต่เครือข่ายของมันยังคงมีข้อจำกัดในการ รองรับธุรกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและกระจายศูนย์ Lightning Network ซึ่งเป็นเครือข่าย Layer 2 ได้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ ทำให้การทำธุรกรรมบน Bitcoin มีความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำลง การรวม USDT เข้ากับ Lightning Network จะช่วยขยายขีดความสามารถของเครือข่าย Bitcoin ไปอีกขั้น
ความเห็นจากผู้นำในวงการ
Elizabeth Stark ซีอีโอของ Lightning Labs ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Lightning Network กล่าวว่า “วันนี้เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่สำหรับสเตเบิลคอยน์ ผู้คนนับล้านจะสามารถใช้บล็อกเชนที่เปิดกว้างและปลอดภัยที่สุดในการส่งดอลลาร์ทั่วโลก ทุกอย่างกลับมาที่ Bitcoin”
คำกล่าวของเธอสะท้อนถึง ความสำคัญของ Bitcoin ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการชำระเงินแบบกระจายศูนย์
การขยายตัวของ USDT บนบล็อกเชนต่าง ๆ
ปัจจุบัน USDT มีให้บริการบนเครือข่ายบล็อกเชนกว่า 17 เครือข่าย รวมถึง Ethereum และ Solana ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้น การผสานรวม USDT เข้ากับ Bitcoin และ Lightning Network จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและทำให้การชำระเงินผ่าน คริปโทเคอร์เรนซี เป็นที่ยอมรับมากขึ้น
บทสรุป
การนำ USDT มาใช้งานบนเครือข่าย Bitcoin และ Lightning Network เป็น ก้าวสำคัญ ที่สะท้อนถึงการเติบโตของ คริปโทเคอร์เรนซี และ บล็อกเชน ในโลกการเงิน การผสานรวมนี้ไม่เพียงช่วย ลดค่าธรรมเนียม และ เพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม แต่ยังช่วย เชื่อมโยงการเงินแบบดั้งเดิมกับเศรษฐกิจดิจิทัล อีกด้วย
แหล่งที่มา: Decrypt.co
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง