ผู้ก่อตั้งธุรกิจคริปโตเผชิญปัญหาการถูกตัดออกจากระบบธนาคาร – Operation Choke Point 2.0 กำลังเกิดขึ้น?

5

Velvet Capital กำลังใช้ การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เพื่อให้ผู้ที่ถูกตัดออกจาก ระบบธนาคารแบบดั้งเดิม สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเท่าเทียม ผู้ก่อตั้ง Velvet Capital เน้นย้ำว่า DeFi เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารเป็นตัวกลาง

Velvet Capital มุ่งใช้ DeFi แก้ปัญหาการเข้าถึงบริการทางการเงิน
Velvet Capital มุ่งใช้ DeFi แก้ปัญหาการเข้าถึงบริการทางการเงิน

ปัจจุบัน ผู้ประกอบการคริปโตและสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีจำนวนมากกำลังเผชิญกับ ปัญหาการถูกปิดบัญชีธนาคารและถูกตัดออกจากบริการทางการเงิน ซึ่งนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับเสรีภาพทางการเงินและการแข่งขันในอุตสาหกรรม

Operation Choke Point 2.0 – มาตรการสกัดกั้นธุรกิจคริปโต?

Marc Andreessen นักลงทุนและผู้ร่วมก่อตั้ง Andreessen Horowitz ได้กล่าวถึงแนวคิด Operation Choke Point 2.0 โดยอ้างว่ารัฐบาล Biden อาจกำลัง นำมาตรการสกัดกั้นภาคธนาคารกลับมาใช้อีกครั้ง ตามแนวทางของยุครัฐบาล Obama

แผน Operation Choke Point ดั้งเดิม (2013-2017) มีเป้าหมาย ตัดการเข้าถึงบริการทางการเงินของอุตสาหกรรมที่รัฐบาลมองว่ามีความเสี่ยงสูง เช่น

  • ร้านจำหน่ายอาวุธปืน
  • ร้านขายกัญชา
  • ธุรกิจที่ถูกมองว่าไม่พึงประสงค์

Andreessen อ้างว่า Operation Choke Point 2.0 ได้ดำเนินมาต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีที่ผ่านมา และกำลัง กดดันธุรกิจเทคโนโลยีและบริษัทคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตาร์ทอัปที่มีแนวคิดขัดแย้งทางการเมือง

Tesla และ Coinbase ประณามมาตรการนี้

Elon Musk CEO ของ Tesla และ Brian Armstrong CEO ของ Coinbase ได้ออกมาวิจารณ์การกระทำดังกล่าว โดย Musk ระบุว่า เป็นการคุกคามเสรีภาพทางการเงิน และ Armstrong กล่าวว่าการกระทำนี้ ไม่เป็นธรรมและอาจทำลายศักยภาพของอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ

“การบล็อกไม่ให้ธุรกิจคริปโตเข้าถึงบริการธนาคาร ถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม และอาจส่งผลกระทบต่อเสรีภาพทางการเงินของผู้คนทั่วโลก” Armstrong กล่าว

Velvet Capital กับบทบาทในการแก้ปัญหานี้

Velvet Capital มองว่า DeFi สามารถเป็นโซลูชันสำคัญในการแก้ปัญหานี้ เนื่องจากระบบ บล็อกเชน ไม่ต้องพึ่งพาธนาคารแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้โดยตรง

Velvet Capital ใช้ สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถ

  • ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
  • ทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
  • สร้างพอร์ตการลงทุนโดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง

ผู้ก่อตั้ง Velvet Capital เชื่อว่า การรวมกันระหว่าง DeFi และระบบการเงินแบบดั้งเดิม อาจเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการ ความเป็นอิสระทางการเงิน

บทสรุป

ผู้ก่อตั้งธุรกิจคริปโตและสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีกำลังเผชิญกับ ปัญหาการถูกกีดกันจากระบบธนาคาร โดยมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับ Operation Choke Point 2.0 ซึ่งอาจเป็นความพยายามของรัฐบาลในการ สกัดกั้นธุรกิจคริปโตและเทคโนโลยีที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์

Velvet Capital กำลังใช้ DeFi เป็นเครื่องมือในการ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างอิสระ และอาจเป็นโซลูชันสำหรับการรับมือกับข้อจำกัดทางการเงินที่เกิดจากระบบธนาคารแบบเดิม

แหล่งที่มา: Yahoo Finance


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้สหรัฐฯ – อังกฤษ – ออสเตรเลีย คว่ำบาตร Zservers โฮสต์แรนซัมแวร์ LockBit
บทความถัดไปRipple CEO แสดงความยินดีต่อการเสนอชื่อ Brian Quintenz เป็นประธาน CFTC