Coinbase เปิดเผยหลักฐานการสำรองสำหรับ cbBTC ท่ามกลางความกังวลเรื่องความโปร่งใส

5

Coinbase ได้เปิดตัว Proof of Reserves (PoR) สำหรับโทเค็น cbBTC เพื่อตอบสนองความกังวลของชุมชนเกี่ยวกับความโปร่งใสและความปลอดภัยของสินทรัพย์ โดย Coinbase ยืนยันว่า cbBTC ได้รับการสนับสนุนแบบ 1:1 ด้วยบิตคอยน์ (Bitcoin)

Coinbase แสดงหลักฐานการสำรองสำหรับ cbBTC
Coinbase แสดงหลักฐานการสำรองสำหรับ cbBTC

ข้อมูลจากรายงาน PoR ระบุว่า Coinbase ถือครอง 26,525.15 BTC เพื่อสนับสนุน cbBTC จำนวน 26,461.05 โทเค็น ซึ่งกระจายอยู่บนเครือข่ายต่าง ๆ ดังนี้:

  • Ethereum: 16,080 cbBTC
  • Base: 7,655.391 cbBTC
  • Solana: 2,673.489 cbBTC
  • Arbitrum: 51.395 cbBTC

Coinbase ยังเปิดเผยที่อยู่กระเป๋าเงินของตนเพื่อยืนยันยอดคงเหลือ โดยกระเป๋าเงินที่ใหญ่ที่สุดถือ 690 BTC ในขณะที่อีก 40 กระเป๋าถือครอง 480.984 BTC ต่อกระเป๋า

ความกังวลจากชุมชนคริปโต

การเปิดเผย PoR เกิดขึ้นหลังจากที่ Justin Sun ผู้ก่อตั้ง Tron แสดงความกังวลเกี่ยวกับ cbBTC โดยระบุว่า “cbBTC ไม่มีการตรวจสอบ และอาจถูกยึดโดยคำสั่งศาลของสหรัฐฯ ได้”

Sun ยังกล่าวว่า “ในที่สุดแล้ว นี่เป็นแค่ระบบที่ต้องเชื่อถือ Coinbase โดยไม่มีหลักฐานที่แท้จริงว่าทรัพย์สินของผู้ใช้ปลอดภัย” ข้อความนี้กระตุ้นให้ชุมชนคริปโตเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม

ผู้ใช้ตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของ Coinbase

แม้ Coinbase จะเปิดเผย PoR แต่ผู้ใช้บางส่วนยังไม่มั่นใจ โดยเฉพาะจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่แพลตฟอร์มมีปัญหาในการฝากถอน Solana (SOL) ทำให้ธุรกรรมล่าช้านานกว่า 14 ชั่วโมง

ผู้ใช้บางรายเชื่อว่า Coinbase อาจนำ SOL ของลูกค้าไปสเตกเพื่อหากำไร และหากมีการถอนพร้อมกันจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง

สรุป

แม้ว่าการเปิดตัว Proof of Reserves ของ Coinbase จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง แต่ชุมชนคริปโตยังคงต้องการ ความโปร่งใสเพิ่มเติม โดยเฉพาะเกี่ยวกับการจัดการสินทรัพย์ของลูกค้าในระยะยาว

📌 แหล่งที่มา: CoinPaprika


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Jack Dorsey ถูกสงสัยว่าเป็น Satoshi Nakamoto ผู้สร้างบิตคอยน์
บทความถัดไปBOB นำ Bitcoin DeFi สู่เวทีหลักในปี 2025 ด้วย Layer-2 Hybrid