Binance.US กลับมาให้บริการฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังระงับไปจากปัญหาทางกฎหมาย

4

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2025 แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต Binance.US ประกาศกลับมาให้บริการ ฝากและถอนเงินดอลลาร์สหรัฐ (fiat) อีกครั้ง หลังจากที่ต้องระงับบริการไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 เนื่องจากปัญหาทางกฎหมายและข้อพิพาทกับหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกา

Binance.US ฟื้นฟูบริการฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐ
Binance.US ฟื้นฟูบริการฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐ

Binance.US ได้ร่วมมือกับ พันธมิตรธนาคารรายใหม่ ทำให้ลูกค้าสามารถฝากและถอนเงินผ่าน ACH Transfers และ Wire Transfers ได้ตามปกติ

โฆษกของ Binance.US กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถฟื้นฟูบริการนี้ได้ และขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและอดทนรอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

ปัญหาทางกฎหมายและผลกระทบก่อนหน้านี้

ย้อนกลับไปใน มิถุนายน 2024 Binance.US ถูกฟ้องร้องโดย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ด้วยข้อกล่าวหาว่าดำเนินการเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ส่งผลให้พันธมิตรธนาคารถอนตัวจากความร่วมมือ ทำให้ Binance.US ต้อง ระงับบริการฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐชั่วคราว

ในช่วงที่บริการ fiat ถูกระงับ Binance.US ได้เสนอให้ลูกค้าใช้การฝากและถอนผ่าน คริปโทเคอร์เรนซีแทน รวมถึงพยายามเจรจากับพันธมิตรธนาคารรายใหม่เพื่อฟื้นฟูบริการ

การกลับมาของ Binance.US จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดหรือไม่?

การที่ Binance.US สามารถกลับมาให้บริการฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐได้ถือเป็น ก้าวสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของลูกค้า รวมถึงช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถแข่งขันกับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง

แม้จะเป็นสัญญาณบวก แต่ยังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของ Binance กับหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของแพลตฟอร์มในระยะยาว

สรุป

Binance.US ได้กลับมาให้บริการ ฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐ อีกครั้งหลังจากต้องระงับไปนานกว่า 8 เดือนจากปัญหาทางกฎหมาย นี่อาจช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของลูกค้า แต่อนาคตของ Binance.US ยังขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและความสามารถในการรักษาความร่วมมือกับพันธมิตรทางการเงิน

📌 แหล่งที่มา: The Block


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้PhilSocial: โซเชียลมีเดียบนบล็อกเชน ที่ให้รางวัลผู้ใช้และสนับสนุนการกุศล
บทความถัดไปนักลงทุน VC ถกอนาคตของมีมคอยน์: จบลงแล้วหรือยังมีอนาคต?