นักลงทุน VC ถกอนาคตของมีมคอยน์: จบลงแล้วหรือยังมีอนาคต?

4

นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตได้ถกเถียงกันเกี่ยวกับอนาคตของ มีมคอยน์ (Memecoins) โดยมีการตั้งคำถามว่าแนวโน้มของสินทรัพย์ประเภทนี้กำลัง จบลง หรือยังคงมีบทบาทในตลาดคริปโตต่อไป

มีมคอยน์ถึงจุดจบแล้วหรือไม่?
มีมคอยน์ถึงจุดจบแล้วหรือไม่?

Nic Carter หุ้นส่วนของ Castle Island Ventures เชื่อว่า “ยุคของมีมคอยน์ได้สิ้นสุดลงแล้ว” เขากล่าวว่าเหตุการณ์ Libragate ซึ่งเป็นกรณีอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับโทเคน LIBRA ของประธานาธิบดีอาร์เจนตินา Javier Milei ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดมีมคอยน์พังทลาย

เขายังชี้ว่ามีมคอยน์เคยได้รับความนิยมเพราะถูกมองว่าเป็น “ทางเลือกที่ยุติธรรมกว่าสำหรับโทเคนที่ได้รับการสนับสนุนจาก VC” แต่ปัจจุบันการเปิดตัวโทเคนใหม่ ๆ กลับกลายเป็น “การควบคุมโดยกลุ่มทุน” และสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนรายย่อย

อีกมุมมอง: มีมคอยน์ยังมีบทบาทสำคัญ?

ในทางตรงกันข้าม Armani Ferrante ผู้ก่อตั้ง Backpack มองว่ามีมคอยน์ยังคงมี ประโยชน์ในการทดสอบระบบการเงินอนาคต เขาเชื่อว่าโทเคนเหล่านี้สามารถใช้เป็น สนามทดลองสำหรับแนวคิดการเงินบนบล็อกเชน ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ

Brian Armstrong CEO ของ Coinbase สนับสนุนแนวคิดนี้โดยกล่าวว่า “มีมคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบล็อกเชน” และเปรียบเทียบว่ามีมคอยน์เป็นเหมือน GIFs ในยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจกลายเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีในอนาคต

ข้อมูลล่าสุดสะท้อนแนวโน้มขาลงของมีมคอยน์

แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Pump.fun พบว่า จำนวนโทเคนใหม่ที่เปิดตัวลดลง 59% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในมีมคอยน์ที่ลดลง

นอกจากนี้ หลายโครงการมีมคอยน์กำลังเผชิญกับ สภาพคล่องที่ลดลง และมีการเทขายจากนักลงทุนที่ต้องการทำกำไร ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่ามีมคอยน์กำลังเผชิญกับช่วงขาลง

สรุป

อนาคตของมีมคอยน์ยังคงเป็นที่ถกเถียงในวงการคริปโต บางฝ่ายเชื่อว่าแนวโน้มของสินทรัพย์ประเภทนี้ กำลังสิ้นสุดลง ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่า มีมคอยน์ยังคงมีบทบาทในนวัตกรรมบล็อกเชน นักลงทุนควรติดตามแนวโน้มตลาดอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้

📌 แหล่งที่มา: Cointelegraph


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Binance.US กลับมาให้บริการฝากถอนเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังระงับไปจากปัญหาทางกฎหมาย
บทความถัดไปเงินตราที่ได้รับการหนุนหลังด้วยพลังงาน: กุญแจสำคัญสู่ระบบการเงินยุคใหม่?