Kanye West หรือที่รู้จักในชื่อ Ye นักร้องและนักธุรกิจชื่อดัง กำลังเตรียมเปิดตัว โทเค็น YZY ซึ่งจะใช้เป็นระบบการชำระเงินหลักบนแพลตฟอร์ม Yeezy.com ของเขา การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาถูกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ Shopify ปิดร้านค้าออนไลน์ของเขา ทำให้ Ye ต้องมองหาวิธีการทางการเงินแบบกระจายศูนย์ที่เขาสามารถควบคุมได้เอง
ตามข้อมูลที่เผยแพร่ โทเค็น YZY จะมี 70% ถือครองโดย Kanye West, 10% สำหรับสภาพคล่อง และ 20% สำหรับนักลงทุน การเปิดตัวนี้ถูกเลื่อนจากวันพฤหัสบดีมาเป็นวันศุกร์ โดยจะเปิดให้ซื้อขายผ่านเว็บไซต์ Yeezy เท่านั้น
อดีตที่เป็นข้อถกเถียงของ Kanye West กับคริปโต
Ye มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับคริปโทเคอร์เรนซี ก่อนหน้านี้เขาเคยวิจารณ์โทเค็นที่ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าคนดัง โดยกล่าวว่า “เหรียญพวกนี้หากินกับแฟน ๆ และไม่มีอะไรมีมูลค่าจริง” อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโทเค็น YZY แสดงให้เห็นว่าเขาเองก็อาจต้องการใช้ประโยชน์จากตลาดนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ Ye เคยถูกบริษัทใหญ่หลายแห่ง เช่น Adidas และ Balenciaga ตัดความสัมพันธ์ หลังจากที่เขาแสดงความคิดเห็นเชิงต่อต้านชาวยิวและแสดงท่าทีสนับสนุนแนวคิดสุดโต่ง สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาต้องหันมาพึ่งแพลตฟอร์มที่เขาควบคุมได้เอง
ความกังวลเกี่ยวกับโทเค็น YZY
นักวิเคราะห์บางคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างของโทเค็น YZY โดยเฉพาะการที่ 70% ของโทเค็นอยู่ในมือของ Kanye West ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของความโปร่งใสและความเป็นไปได้ของการควบคุมราคาตลาด
นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้า เช่น LIBRA Token ของประธานาธิบดีอาร์เจนตินา Javier Milei ที่กลายเป็นประเด็นฉ้อโกงหลังจากราคาพุ่งขึ้นและร่วงลงอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์เชื่อว่าหาก YZY Token มีการกระจายที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดปัญหาคล้ายกัน
บทสรุป
การเปิดตัว YZY Token ของ Kanye West เป็นก้าวใหม่ของเขาสู่โลกของคริปโทเคอร์เรนซี แม้ว่าจะเป็นโอกาสในการสร้างแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ที่เขาควบคุมได้ แต่ก็ยังมีข้อกังวลด้านความโปร่งใสและความเป็นไปได้ของการเก็งกำไรในตลาด นักลงทุนควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับโครงการนี้อย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุน
แหล่งที่มา: CoinDesk
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
