ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญแรงเทขายหนัก ส่งผลให้ ดัชนีความกลัวและความโลภ (Crypto Fear and Greed Index) ร่วงลงสู่ระดับ 25 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะ “กลัวสุดขีด (Extreme Fear)” หลังจากมูลค่าตลาดรวมลดลง 10% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดัชนีดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ของตลาดโดยพิจารณาจาก ความผันผวนของราคา, โมเมนตัมตลาด, ปริมาณการซื้อขาย และข้อมูลโซเชียลมีเดีย การที่ดัชนีลดลงอย่างรวดเร็วสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาคริปโตหลักปรับฐานรุนแรง
ราคาของ Bitcoin (BTC) ลดลงกว่า 14% ในขณะที่ Ethereum (ETH), Solana (SOL) และ XRP ก็ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมลดลงอย่างรวดเร็ว
การปรับตัวลงของ BTC ทำให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่นักลงทุนรายย่อย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเร่งให้ตลาดเข้าสู่ภาวะ Extreme Fear

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาด
การลดลงของตลาดในครั้งนี้อาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย รวมถึง:
- แรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่ (Whales) ที่อาจกระตุ้นให้เกิดแรงกดดันด้านราคา
- ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งกำลังพิจารณานโยบายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
- แรงเทขายจากแพลตฟอร์มคริปโตและนักลงทุนสถาบัน ที่ต้องการลดความเสี่ยงท่ามกลางความผันผวน
บทสรุป
ตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายครั้งใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีความกลัวและความโลภแตะระดับ Extreme Fear ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนในระยะสั้น นักลงทุนควรจับตาดูแนวรับสำคัญของ BTC และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด
บทสรุป
ตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้ดัชนีความกลัวและความโลภแตะระดับ “กลัวสุดขีด” นักลงทุนควรจับตาดูแนวรับสำคัญของ BTC และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในช่วงที่ตลาดยังไม่แน่นอน
แหล่งที่มา: CoinDesk
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง