รัฐบาลเวียดนามกำลังเร่งพัฒนากรอบกฎหมายเพื่อควบคุม สินทรัพย์ดิจิทัล และ คริปโทเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมาย รวมถึงสร้างแนวทางกำกับดูแลสำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ

การดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังผลักดัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี เช่น การฟอกเงิน การฉ้อโกง และความไม่แน่นอนทางกฎหมาย ซึ่งเคยเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ
ความสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัลต่อเศรษฐกิจเวียดนาม
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มี อัตราการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีสูงที่สุดในโลก โดยมีประชากรจำนวนมากที่ลงทุนและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน นอกจากนี้ ยังมีโครงการบล็อกเชนและสตาร์ทอัพด้านคริปโตเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
แม้ว่าเวียดนามจะยังไม่มี กฎหมายเฉพาะที่รองรับคริปโทเคอร์เรนซี แต่รัฐบาลเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างกฎระเบียบเพื่อ ป้องกันความเสี่ยงและส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน
รัฐบาลเวียดนามกำลังเร่งร่างกฎหมาย
ตามรายงานจากแหล่งข่าว รัฐบาลเวียดนามได้มอบหมายให้หน่วยงานกำกับดูแลการเงินและธนาคารกลางเวียดนามศึกษาแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยพิจารณานโยบายของประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสิงคโปร์
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ เวียดนามจะออกกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทคริปโตต้องได้รับใบอนุญาตก่อนดำเนินธุรกิจ คล้ายกับโมเดลของสิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้กับอุตสาหกรรม
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโตในเวียดนาม
- นักลงทุนและผู้ใช้งานคริปโตจะได้รับ ความคุ้มครองทางกฎหมาย มากขึ้น
- สตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนในเวียดนามอาจ ได้รับโอกาสในการเติบโต ภายใต้กฎระเบียบที่ชัดเจน
- ความเข้มงวดของกฎหมายอาจ ส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ไม่ได้รับใบอนุญาต
เวียดนามก้าวสู่อนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัล
การจัดทำกรอบกฎหมายสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็น ก้าวสำคัญของเวียดนาม ในการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ หากดำเนินการสำเร็จ เวียดนามอาจกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แหล่งที่มา: Decrypt
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง