ผู้ใช้ Pi Network เสี่ยงสูญเสียเหรียญจากปัญหาการยืนยันตัวตน (KYC) ก่อนวัน Pi Day

3

ผู้ใช้ Pi Network อาจสูญเสียเหรียญที่ขุดได้หากไม่สามารถดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC) ได้สำเร็จก่อนถึงวัน Pi Day ในวันที่ 14 มีนาคม 2025 ซึ่งเป็นกำหนดสำคัญของเครือข่าย Pi Network สำหรับการย้ายเหรียญจากบัญชีขุดไปยัง Mainnet โดยมีรายงานว่าหลายบัญชียังคงพบปัญหาในกระบวนการ KYC ซึ่งอาจส่งผลให้เหรียญที่ถืออยู่สูญหายไปหากไม่ได้รับการอนุมัติทันเวลา

ปัญหาการยืนยันตัวตนของ Pi Network
ปัญหาการยืนยันตัวตนของ Pi Network

ข้อกำหนดและผลกระทบต่อผู้ใช้

ทีมพัฒนา Pi Network ได้กำหนดให้ผู้ใช้ที่ต้องการย้ายเหรียญไปยัง Mainnet ต้องผ่านขั้นตอน KYC verification อย่างสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงการอัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตนและผ่านกระบวนการตรวจสอบความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าพวกเขายังคงติดอยู่ในขั้นตอน KYC โดยไม่มีความคืบหน้าหรือไม่ได้รับการอนุมัติ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเหรียญที่ขุดไว้

ทีมพัฒนาเตือนให้ดำเนินการ KYC โดยด่วน

ทางทีมพัฒนาของ Pi Network ได้ออกประกาศเตือนให้ผู้ใช้เร่งดำเนินการ KYC ก่อนถึงกำหนดเส้นตาย Pi Day เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเหรียญ นอกจากนี้ยังมีการเน้นย้ำว่าผู้ใช้ที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ทันเวลาอาจถูกตัดสิทธิ์จากการใช้งาน Mainnet ส่งผลให้เหรียญที่ถือไว้ไม่สามารถถูกโอนออกไปยังเครือข่ายหลักได้

ความกังวลเกี่ยวกับระบบ KYC และอนาคตของ Pi Network

แม้ว่าจะมีการส่งเสริมให้ผู้ใช้ดำเนินการ KYC แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับระบบยืนยันตัวตนของ Pi Network ที่อาจยังมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีของผู้ใช้ที่พบปัญหาความล่าช้าในการอนุมัติ หลายคนแสดงความกังวลว่า หากระบบ KYC ยังคงมีปัญหา ผู้ใช้บางส่วนอาจสูญเสียเหรียญของพวกเขาไปโดยไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้

สรุป

ผู้ใช้ Pi Network จำเป็นต้องเร่งดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC) ให้เสร็จสิ้นก่อนวัน Pi Day เพื่อป้องกันการสูญเสียเหรียญ อย่างไรก็ตาม ปัญหาความล่าช้าในการอนุมัติ KYC ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ และหากไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของโครงการในระยะยาว

แหล่งที่มา: Coinpedia


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้อินเดียจับกุมผู้บริหาร Garantex ตามคำขอของสหรัฐฯ ฐานฟอกเงินผ่านคริปโท
บทความถัดไปPepe Whale เคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ดันราคาโทเค็นพุ่งแรง