ทำเนียบขาวยืนยัน David Sacks ขายคริปโตมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ก่อนรับตำแหน่ง

3

ทำเนียบขาว ออกมายืนยันว่า David Sacks ได้ขายสินทรัพย์คริปโตและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดิจิทัล มูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ ก่อนเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้ดูแลนโยบายด้าน AI และคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ

David Sacks ขายสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนเข้ารับตำแหน่ง
David Sacks ขายสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนเข้ารับตำแหน่ง

ตามเอกสารที่เปิดเผย Sacks ได้ ขาย Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ Solana (SOL) รวมถึงหุ้นในบริษัทคริปโต เช่น Coinbase และ Robinhood ก่อนที่ ประธานาธิบดี Donald Trump จะเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025

มาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์

Sacks ดำเนินการขายสินทรัพย์คริปโตทั้งหมด เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เนื่องจากตำแหน่งของเขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับการกำหนดนโยบายคริปโตและ AI ในระดับรัฐบาลกลาง

“การขายสินทรัพย์ดิจิทัลและหุ้นของบริษัทคริปโตเป็นการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าการตัดสินใจด้านนโยบายของเขาจะเป็นไปอย่างเป็นกลาง” แหล่งข่าวจากทำเนียบขาวกล่าว

รายงานระบุว่าในจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ที่ขายไป 85 ล้านดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ที่ถือครองโดยตรงของ Sacks และที่เหลือเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Craft Ventures

ข้อถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทของ Sacks ในรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ Sacks ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับอุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะ แนวคิดเรื่องการสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ของรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน

Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตเป็นหนึ่งในผู้ที่แสดงความกังวลว่า “การที่บุคคลซึ่งมีผลประโยชน์โดยตรงในอุตสาหกรรมคริปโตได้รับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกลางของนโยบาย”

บทสรุป

การขายสินทรัพย์คริปโตของ David Sacks ก่อนเข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว เป็นมาตรการที่ช่วยให้บทบาทของเขาในรัฐบาลปราศจากข้อครหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับอิทธิพลของเขาในการกำหนดนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

แหล่งที่มา: The Crypto Basic


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Strive เปิดตัวกองทุน ETF พันธบัตรองค์กรที่เชื่อมโยงกับ Bitcoin
บทความถัดไปปริมาณการใช้งาน DEX ลดลงท่ามกลางความผันผวนของตลาด