Geoffrey Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลและ FX ของธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Standard Chartered ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า Bitcoin (BTC) คือสินทรัพย์ที่ควรถือในปี 2025 แทนการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Tesla โดยเขายังประเมินว่า BTC มีโอกาสพุ่งแตะระดับ $150,000 ภายในสิ้นปีนี้ หากปัจจัยบวกยังคงหนุนตลาดต่อเนื่อง

คำแนะนำนี้นับเป็นหนึ่งในมุมมองที่ “แรง” ที่สุดจากสถาบันการเงินกระแสหลัก ซึ่งมักมีท่าทีระมัดระวังต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต
Kendrick ยก Bitcoin เหนือ Tesla
ในบทสัมภาษณ์ล่าสุด Kendrick ระบุว่า ในมุมมองของเขา Bitcoin คือ “ตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจกว่าหุ้น Tesla” ณ เวลานี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากปัจจัยมหภาค เช่น ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed), การเข้าซื้อจากกองทุน ETF และความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย Bitcoin
“หากคุณถือ Tesla ผมแนะนำให้ขาย แล้วนำเงินนั้นไปซื้อ Bitcoin” Kendrick กล่าว
การเปรียบเทียบระหว่าง BTC และ TSLA ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในแวดวงการเงินกระแสหลัก แต่ความคิดเห็นนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มราคาของ Bitcoin ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ราคา BTC อาจแตะ $150,000 ภายในปี 2025
Kendrick ไม่ได้พูดเพียงมุมมองเท่านั้น แต่ยังเสนอ “ตัวเลขเป้าหมาย” ที่ชัดเจน โดยระบุว่า BTC อาจขึ้นไปแตะระดับ $150,000 ได้ในช่วงปลายปี 2025 หากกระแสการซื้อจาก ETF ยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน
เขายังเสริมว่า ในระยะสั้นราคาสามารถไต่ระดับขึ้นไปที่ $100,000 ได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้ ก่อนจะไต่ต่อหากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง
แรงหนุนจาก ETF คือคีย์สำคัญ
หนึ่งในปัจจัยที่ Kendrick ให้ความสำคัญคือกระแสการซื้อ Bitcoin ผ่าน กองทุน ETF แบบ Spot ในสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัติเมื่อไม่นานมานี้ และกำลังดึงดูดเม็ดเงินจากกลุ่มนักลงทุนที่เคยหลีกเลี่ยงคริปโต
“ETF จะเป็นตัวเร่งให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์กระแสหลักอย่างแท้จริง” เขาย้ำ พร้อมระบุว่าแรงซื้อสะสมจาก ETF มีบทบาทต่อการดันราคามากกว่าที่ตลาดส่วนใหญ่ประเมินไว้
บทสรุป
การที่ผู้บริหารระดับสูงจากธนาคารใหญ่ออกมาแนะนำ “ขายหุ้นเทคโนโลยีแล้วซื้อ Bitcoin” สะท้อนถึง การเปลี่ยนแปลงของมุมมองต่อคริปโตในโลกการเงินกระแสหลัก ซึ่งเคยตั้งข้อสงสัยมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่การเติบโตของ ETF และการยอมรับในวงกว้าง กำลังผลักดันให้ BTC กลายเป็น “สินทรัพย์หลัก” ที่นักลงทุนทั่วโลกไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป
แหล่งที่มา: Coinfomania.com
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง