รายงานล่าสุดจากธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan ระบุว่า แนวคิดที่ว่า Bitcoin (บิทคอยน์) เป็น “ทองคำดิจิทัล” กำลังถูกท้าทายอย่างหนัก หลังจากราคาทองคำพุ่งทำสถิติใหม่สูงสุดที่ 3,167 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาบิทคอยน์กลับดิ่งลงถึง 4% มาอยู่ที่ระดับ 82,219 ดอลลาร์
ความผันผวนนี้เกิดขึ้นหลัง Donald Trump ประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ต่อหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงิน และส่งผลให้นักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้นอย่างทองคำ
“ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนไว้วางใจมากกว่า Bitcoin เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจมหภาค” — นักวิเคราะห์จาก JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou
นักลงทุนแห่เข้าทองคำ ทิ้ง Bitcoin ETF
แนวโน้มดังกล่าวยังสะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวในตลาด ETF โดยข้อมูลจาก JPMorgan เผยว่า ETF ของทองคำมีเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ขณะที่ ETF ของ Bitcoin กลับพบ “เงินไหลออก” ติดต่อกันหลายสัปดาห์
สัญญา Bitcoin Futures ก็แสดงแนวโน้มลบตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่ Gold Futures ยังคงทรงตัว บ่งชี้ว่านักลงทุนทั้งรายย่อยและธนาคารกลางยังคงเทใจให้ทองคำมากกว่าสินทรัพย์คริปโต
“นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า Bitcoin ยังเป็นทองคำดิจิทัลจริงหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากความผันผวนและความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นที่สูงขึ้น” — รายงานจาก JPMorgan ระบุ
กลยุทธ์ Debasement Trade ยังหนุนทองคำ
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ชี้ว่ากลยุทธ์ “Debasement Trade” ซึ่งหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดอย่างทองคำและ Bitcoin เพื่อต้านเงินเฟ้อ และความเสื่อมค่าของสกุลเงินดั้งเดิม ยังคงดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบกลับตกเป็นของทองคำในระยะนี้ เนื่องจากราคาที่พุ่งแรงและภาพลักษณ์ความมั่นคง ขณะที่ Bitcoin ต้องเผชิญแรงเทขายจากนักลงทุนระยะสั้นที่ไม่มั่นใจในสถานะของมันในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
เสียงจากนักวิเคราะห์
Peter Schiff นักวิเคราะห์สายทองคำที่มีชื่อเสียง แสดงความคิดเห็นผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ว่า
“สินทรัพย์เสี่ยงกำลังร่วงหนักหลัง Trump ออกภาษีใหม่ Dow Futures ร่วงกว่า 1,000 จุด แต่ทองคำคือหลุมหลบภัยที่แท้จริง ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง” — Peter Schiff (@PeterSchiff), 2 เมษายน 2025
บทสรุป
แม้ Bitcoin จะได้รับฉายา “ทองคำดิจิทัล” มานานหลายปี แต่สถานการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ทองคำแท้จริงยังคงได้รับความไว้วางใจสูงกว่าในภาวะเศรษฐกิจผันผวน การที่นักลงทุนทยอยถอนเงินจาก Bitcoin ETF สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่คริปโตกำลังเผชิญในการยืนหยัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว
แหล่งที่มา: insidebitcoins.com
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
