กระดานเทรดแบบ CEX และ DEX แตกต่างกันอย่างไร? ความหมาย เปรียบเทียบ ความเหมือนและความต่าง พร้อมสิ่งที่ควรรู้

3

ในยุคที่ ตลาดคริปโต เติบโตอย่างรวดเร็ว การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล มีความสำคัญอย่างมาก นักเทรดส่วนใหญ่เลือกใช้งานแพลตฟอร์ม 2 ประเภทหลัก ได้แก่ CEX (Centralized Exchange) กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ และ DEX (Decentralized Exchange) กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ ซึ่งมีความแตกต่างในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการทำงาน ความปลอดภัย และประสบการณ์การใช้งาน

กระดานเทรดแบบ CEX และ DEX

กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) คืออะไร?

CEX หรือ Centralized Exchange เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดำเนินการโดยองค์กรหรือบริษัท ตัวอย่างเช่น Binance, Coinbase, KuCoin และ Bybit นักเทรดต้องสร้างบัญชีและโอนสินทรัพย์เข้าสู่แพลตฟอร์มเพื่อเริ่มต้นการซื้อขาย

กระบวนการทำงานของ CEX

CEX ทำงานผ่าน ตัวกลาง ซึ่งองค์กรเป็นผู้ควบคุมธุรกรรมทั้งหมด ผู้ใช้งานต้องฝากสินทรัพย์ไว้ในบัญชีของแพลตฟอร์มเพื่อแลกเปลี่ยนเหรียญหรือทำธุรกรรม

ข้อดีของ CEX

  • ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาอย่างดีเหมาะสำหรับมือใหม่
  • มีสภาพคล่องสูง: มีปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก ทำให้ราคาซื้อขายมีเสถียรภาพ
  • รองรับฟีเจอร์ที่หลากหลาย: เช่น การเทรดล่วงหน้า (Futures), Margin Trading, และ Staking
  • บริการลูกค้า: มีทีมสนับสนุนลูกค้าให้ความช่วยเหลือ

ข้อเสียของ CEX

  • ความเสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก: เนื่องจากเป็นการเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าออนไลน์
  • การควบคุมจากองค์กร: ผู้ใช้งานไม่มีอิสระในการควบคุมสินทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียมสูง: การทำธุรกรรมอาจมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า

กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) คืออะไร?

DEX หรือ Decentralized Exchange เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบไร้ตัวกลาง ทำงานผ่าน Smart Contract บนบล็อกเชน ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องโอนสินทรัพย์ไปยังแพลตฟอร์ม และสามารถทำธุรกรรมได้อย่างอิสระ ตัวอย่างของ DEX ที่ได้รับความนิยม เช่น Uniswap, PancakeSwap, และ SushiSwap

กระบวนการทำงานของ DEX

การทำธุรกรรมทั้งหมดดำเนินการบน บล็อกเชน โดยตรง ทำให้ผู้ใช้งานยังคงถือครองสินทรัพย์ของตนเองและมีความเป็นส่วนตัวสูง

ข้อดีของ DEX

  • ความปลอดภัยสูง: ผู้ใช้งานควบคุมสินทรัพย์ของตนเอง ลดความเสี่ยงจากการโจมตี
  • ความเป็นส่วนตัว: ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตนผ่าน KYC
  • รองรับเหรียญใหม่: เหมาะสำหรับการแลกเปลี่ยนเหรียญที่ยังไม่เป็นที่นิยม

ข้อเสียของ DEX

  • การใช้งานยาก: ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • สภาพคล่องต่ำ: ปริมาณการซื้อขายอาจน้อยกว่า CEX
  • การทำธุรกรรมช้า: ขึ้นอยู่กับความเร็วของบล็อกเชน

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างและความเหมือนระหว่าง DEX และ CEX

หัวข้อCEX (Centralized Exchange)DEX (Decentralized Exchange)
กระบวนการเทรดที่แตกต่างกันใช้ตัวกลางในการจับคู่คำสั่งซื้อขาย การฝากและถอนสินทรัพย์ต้องผ่านแพลตฟอร์มทุกธุรกรรมดำเนินการโดยตรงบนบล็อกเชน
ประสบการณ์การเทรดใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพต้องการความรู้ด้านเทคโนโลยี เช่น การตั้งค่ากระเป๋าเงินและการใช้ Smart Contract
ระดับความปลอดภัยมีความเสี่ยงจากการโจมตีของแฮ็กเกอร์ เนื่องจากสินทรัพย์ถูกเก็บไว้ในแพลตฟอร์มมีความปลอดภัยสูงกว่าเพราะผู้ใช้งานเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าของตัวเอง
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมค่าธรรมเนียมอาจสูงกว่า โดยเฉพาะในกรณีการถอนเงินค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับบล็อกเชน เช่น ค่าก๊าซ (Gas Fee)

สิ่งที่ควรระวังบนแพลตฟอร์ม CEX กับ DEX

บน CEX

  • เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดตัวของแพลตฟอร์ม
  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่อาจกระทบต่อผลกำไร
  • ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น 2FA

บน DEX

  • ระวัง Scam Tokens หรือเหรียญปลอม
  • ตรวจสอบ Smart Contract ว่าผ่านการตรวจสอบหรือยัง
  • ศึกษาขั้นตอนการใช้งานอย่างละเอียดเพื่อลดความผิดพลาด

แนวโน้มของ CEX ในอนาคต

CEX ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดรายใหญ่ เนื่องจากมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น NFT Marketplace, บริการ DeFi แบบรวมศูนย์ และการสนับสนุน Stablecoin ในวงกว้าง

แนวโน้มของ DEX ในอนาคต

DEX คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่ความเป็นส่วนตัวและการกระจายอำนาจได้รับความสนใจมากขึ้น แนวโน้มที่น่าสนใจได้แก่ Cross-Chain Trading และการพัฒนา User Interface ให้ใช้งานง่ายขึ้น

ข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ในการเลือก CEX กับ DEX

1. ความถี่ในการเทรด

หากคุณเทรดบ่อย เช่น Scalping หรือ Day Trading การใช้ CEX อาจเหมาะกว่า เพราะมีความเร็วในการจับคู่คำสั่งซื้อขายและสภาพคล่องสูง อย่างไรก็ตาม หากคุณลงทุนระยะยาว DEX อาจตอบโจทย์มากกว่า เพราะคุณสามารถควบคุมสินทรัพย์ได้เอง

2. สินทรัพย์ที่ต้องการซื้อขาย

หากเหรียญที่คุณต้องการซื้อขายเป็นเหรียญยอดนิยม เช่น Bitcoin (BTC) หรือ Ethereum (ETH) การเลือก CEX จะสะดวกกว่าเพราะมีปริมาณการซื้อขายสูง แต่ถ้าคุณสนใจเหรียญใหม่หรือเหรียญที่ยังไม่เป็นที่นิยม DEX อาจเหมาะสมกว่า เนื่องจากรองรับเหรียญที่หลากหลาย

3. งบประมาณ

ค่าธรรมเนียมเป็นอีกปัจจัยสำคัญ CEX มักมีค่าการซื้อขายและค่าถอนที่สูงกว่า ส่วน DEX อาจมีค่าก๊าซที่ขึ้นอยู่กับบล็อกเชน เช่น Ethereum ซึ่งอาจสูงในช่วงที่เครือข่ายหนาแน่น

4. ความรู้ความเข้าใจ

ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นกับ CEX เพราะใช้งานง่ายและมีทีมสนับสนุน ส่วนผู้ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี เช่น การตั้งค่ากระเป๋าเงินดิจิทัล การใช้ DEX จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอิสระในการจัดการสินทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้งาน CEX หรือ DEX ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและการเทรดของคุณ ทั้งนี้ การจัดการความปลอดภัยและการเข้าใจความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Robert Kiyosaki คาดการณ์ตลาดหุ้นล่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 พร้อมแนะให้ลงทุนใน Bitcoin
บทความถัดไปION Blockchain เตรียมเปิดตัว Mainnet พร้อมบรรลุเป้าหมายสำคัญ