Altvest บริษัทการลงทุนแอฟริกาใต้ เริ่มสะสมบิตคอยน์ มุ่งใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ

4

บริษัทการลงทุน Altvest Capital จากแอฟริกาใต้ได้ประกาศว่าได้เริ่มลงทุนใน บิทคอยน์ (BTC) เป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายใช้เป็น เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการลดค่าเงินแรนด์ ของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของบริษัทการเงินทั่วโลกที่หันมาใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรอง

Altvest ประกาศกลยุทธ์ลงทุนในบิตคอยน์
Altvest ประกาศกลยุทธ์ลงทุนในบิตคอยน์

Warren Wheatley ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Altvest กล่าวว่า “เรามองว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่สกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น” พร้อมเปิดเผยว่าบริษัทกำลังดำเนินการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อให้สามารถเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อิงกับบิตคอยน์แก่ลูกค้าได้

เหตุผลที่ Altvest เลือกลงทุนในบิตคอยน์

Altvest ระบุว่าการตัดสินใจลงทุนในบิตคอยน์มาจาก คุณสมบัติความขาดแคลน (scarcity) และธรรมชาติที่กระจายศูนย์ (decentralization) ซึ่งแตกต่างจากสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ Wheatley กล่าวเสริมว่า “เราต้องการลงทุนเฉพาะในบิตคอยน์ เพราะมันเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีศักยภาพในการป้องกันความผันผวนของค่าเงิน”

ปัจจุบัน บิตคอยน์ได้รับการยอมรับจากบริษัทเอกชนและกองทุนการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น MicroStrategy และ Tesla ซึ่งใช้ BTC เป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์สำรองขององค์กร ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มพิจารณาการใช้บิตคอยน์ในระบบเศรษฐกิจของตน

Altvest ไม่มีแผนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น

แม้ว่าหลายบริษัทจะเริ่มพิจารณาการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีหลายประเภท Altvest ยืนยันว่าจะมุ่งเน้นการลงทุนในบิตคอยน์เท่านั้น และไม่มีแผนที่จะกระจายการลงทุนไปยังอัลท์คอยน์ (Altcoins) หรือโทเค็นอื่น ๆ

Wheatley ระบุว่า “เราเชื่อมั่นในศักยภาพของบิตคอยน์มากกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น และเราต้องการให้การลงทุนของเรามีพื้นฐานที่มั่นคงและโปร่งใส”

บทสรุป

การตัดสินใจของ Altvest Capital ในการเริ่มสะสมบิตคอยน์เป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทรายใหญ่ในแอฟริกาใต้กำลังให้ความสนใจในคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น บิตคอยน์ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศที่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง Altvest ตั้งเป้าที่จะใช้ BTC เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาว และคาดว่าบริษัทอื่น ๆ ในภูมิภาคอาจเดินตามแนวทางเดียวกันในอนาคต

แหล่งที่มา: Cointelegraph


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้JPMorgan เผยตลาดคริปโตขาดแรงหนุน นักลงทุนสถาบันลดความสนใจ
บทความถัดไปNansen เข้าร่วมเป็น Super Representative บน TRON เสริมความโปร่งใสและการกำกับดูแล