ราคาของบิตคอยน์ (Bitcoin) กำลังเผชิญกับการปรับฐานที่น่าสนใจ โดยในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาปรับตัวลดลงประมาณ 13% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $108,600 ลงมาอยู่ที่ $94,700 ณ เวลาที่รายงาน ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคานี้สอดคล้องกับรูปแบบในอดีตที่เกิดขึ้นหลังการ Halving และอาจส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวครั้งใหญ่ในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงหลังการ Halving: รูปแบบที่น่าจับตา
หลังจากการ Halving ในเดือนเมษายน 2024 ราคาบิตคอยน์ได้ปรับตัวสูงขึ้นไปสู่จุดสูงสุดใหม่ที่ $108,600 อย่างไรก็ตาม การปรับฐานที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกลับเป็นสิ่งที่หลายคนคาดการณ์ไว้ โดยการลดลงถึง 30% จากระดับปัจจุบัน อาจทำให้ราคาบิตคอยน์แตะระดับต่ำสุดที่ $75,000 ในรอบนี้
แนวโน้มในอนาคต: จากประวัติศาสตร์สู่การคาดการณ์
หากบิตคอยน์สามารถฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดที่ $75,000 ได้เหมือนในอดีต อาจนำไปสู่การเติบโตที่สำคัญ โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าราคาบิตคอยน์อาจแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบนี้ที่ $225,000 ในเดือนตุลาคม 2025 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมักเต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “แม้ประวัติศาสตร์จะไม่ได้ซ้ำรอย แต่ก็มักจะมีจังหวะที่คล้ายคลึงกัน”
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
นักวิเคราะห์จาก CryptoSlate กล่าวว่า “การปรับฐานในปัจจุบันมีลักษณะใกล้เคียงกับช่วงหลัง Halving ก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงถึงโอกาสในการฟื้นตัว หากตลาดยังคงมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน”
นอกจากนี้ ระดับแนวรับสำคัญที่ $94,700 และ $75,000 เป็นจุดที่ต้องจับตามอง หากราคายังสามารถทรงตัวได้ในช่วงนี้ อาจเปิดทางให้บิตคอยน์กลับมาทดสอบแนวต้านสำคัญในอนาคต
ปัจจัยที่สนับสนุนและข้อควรระวัง
- การยอมรับที่เพิ่มขึ้น: การยอมรับในวงกว้างของบิตคอยน์ทั้งในด้านการลงทุนและการใช้งานจริงยังคงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตลาด
- แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน: การเข้ามาของนักลงทุนรายใหญ่ช่วยสร้างแรงซื้อที่สำคัญ
- ความเสี่ยงของตลาด: หากราคาหลุดแนวรับที่สำคัญ อาจเกิดแรงขายต่อเนื่องและทำให้การฟื้นตัวล่าช้า
บทสรุป: โอกาสในความเสี่ยง
ราคาบิตคอยน์ในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการปรับฐานที่สอดคล้องกับรูปแบบในอดีต ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับการฟื้นตัวครั้งใหญ่ในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เนื่องจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมักมีความผันผวนสูง
แหล่งที่มา: CryptoSlate
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง