Arthur Hayes อดีตซีอีโอของ BitMEX ได้คาดการณ์ว่า ตลาดคริปโต จะถึงจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2025 ก่อนเผชิญการปรับฐานอย่างรุนแรง โดยเขาชี้ว่าสภาพคล่องในตลาดจะถูกดึงออกไปอย่างมากจากนโยบายการลดปริมาณเงิน (Quantitative Tightening) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
BitMEX เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์คริปโตที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีชื่อเสียงด้านการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สและเลเวอเรจสูงถึง 100x โดยเน้นนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างรวดเร็ว
การดึงสภาพคล่องและผลกระทบต่อคริปโต
Hayes ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ดำเนินการดึงสภาพคล่องออกจากระบบผ่านการลดงบดุลเดือนละ 60 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลดลงถึง 180 พันล้านดอลลาร์ภายในเดือนมีนาคม 2025 เขาเชื่อว่านโยบายนี้จะผลักดันตลาดไปถึงจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนมีนาคม ก่อนจะเกิดการปรับฐานรุนแรง
“Sasa” is an essay where I explain y I think #crypto tops out in mid-Mar and then severely corrects. Until then is time to dance. https://t.co/Apt124sOjp pic.twitter.com/LKQ24GMtpq
— Arthur Hayes (@CryptoHayes) January 6, 2025
บทบาทของกระทรวงการคลังและ RRP
Hayes ยังเน้นว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในตลาดคริปโต โดยการลดอัตราดอกเบี้ยในโครงการ Reverse Repo Facility (RRP) ส่งผลให้เงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เติบโต
เขาชี้ว่า Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้เลือกออกพันธบัตรระยะสั้นมากขึ้นแทนพันธบัตรระยะยาวในปีที่ผ่านมา การตัดสินใจนี้ส่งผลให้เงินไหลเวียนในตลาดมากขึ้น ซึ่งสนับสนุนการเติบโตของคริปโต
กลยุทธ์การลงทุนในตลาดคริปโต
Hayes เปิดเผยว่าเขาจะปรับกลยุทธ์การลงทุนของกองทุน Maelstrom โดยเน้นลงทุนในโครงการที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับ DeSci (Decentralized Science) ซึ่งเขามองว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในตลาด
เขายังเตือนนักลงทุนให้เตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่จะตามมาหลังจุดสูงสุดในเดือนมีนาคม
บทสรุป: โอกาสและความเสี่ยงในตลาดคริปโต
การคาดการณ์ของ Arthur Hayes ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงินของ Fed และตลาดคริปโต การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสภาพคล่องอาจนำไปสู่โอกาสการลงทุนในระยะสั้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง
แหล่งที่มา: Cryptopolitan
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง