ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญในยุคดิจิทัล แต่การควบคุมข้อมูลเหล่านี้กลับไม่ได้อยู่ในมือของผู้ใช้ โครงการ Dwinity กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์ม Web3 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของและจัดการข้อมูลของตนเองได้ผ่าน Digital Twin (คู่แฝดดิจิทัล) แบบกระจายศูนย์ ซึ่งเน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ข้อมูลส่วนบุคคลในระบบปัจจุบัน
ปัจจุบัน ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อยู่ในระบบที่กระจัดกระจายและถูกควบคุมโดยแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ เช่น โซเชียลมีเดียหรือบริการออนไลน์ต่างๆ ซึ่งเก็บข้อมูลจากกิจกรรมออนไลน์ การค้นหา และการโต้ตอบในชีวิตประจำวัน ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้สร้าง Digital Twin หรือภาพสะท้อนดิจิทัลของพฤติกรรมและความชอบของบุคคล
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ควบคุมหรือมองเห็นข้อมูลทั้งหมดของตัวเอง ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว เนื่องจากข้อมูลอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม
คุณค่าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลมีคุณค่าอย่างมหาศาล ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์ทางการแพทย์ หรือการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน แต่การควบคุมข้อมูลเหล่านี้ให้อยู่ในมือของผู้ใช้ยังเป็นความท้าทายใหญ่ ระบบปัจจุบันยังไม่สามารถสร้างสมดุลระหว่าง การรักษาความเป็นส่วนตัว และ การใช้ประโยชน์จากข้อมูล ได้ดีพอ
Dwinity และการปฏิวัติ Digital Twin
Dwinity กำลังมุ่งเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ โดยสร้างแพลตฟอร์ม Web3 ที่ช่วยผู้ใช้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลในแบบ กระจายศูนย์ และปลอดภัยยิ่งขึ้น ฟีเจอร์สำคัญในแพลตฟอร์มคือ Bubble Browser Data Explorer ที่เปิดตัวในเวอร์ชันเบต้า ช่วยให้ผู้ใช้สร้าง Digital Twin ของตนเอง ซึ่งเป็นภาพสะท้อนข้อมูลส่วนตัวที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ความชอบ หรือพฤติกรรมออนไลน์
แพลตฟอร์มนี้ใช้ การเข้ารหัสแบบทนทานต่อควอนตัม เพื่อปกป้องข้อมูล และช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมว่าใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของพวกเขาได้
Michael Fraser ซีอีโอของ Dwinity กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาเอง เราเชื่อว่าการเป็นเจ้าของข้อมูลเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของทุกคน”
Digital Twin กับประโยชน์ในอนาคต
ด้วย Digital Twin ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพรวมของข้อมูลตัวเองได้อย่างชัดเจนและสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น การปรับปรุงสุขภาพส่วนบุคคล หรือการปรับแต่งบริการให้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ การจัดเก็บข้อมูลในระบบแบบกระจายศูนย์ช่วยลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูลหรือการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด
Alex Wong ผู้เชี่ยวชาญด้าน Web3 ระบุว่า “Digital Twin จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ใช้ในอนาคต ไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจข้อมูลตัวเอง แต่ยังช่วยสร้างการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยุติธรรมยิ่งขึ้น”
สรุป
Dwinity กำลังปฏิวัติวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุม Digital Twin ของตนเองได้อย่างเต็มที่ผ่านเทคโนโลยี Web3 ที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แนวทางใหม่นี้อาจกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการจัดการข้อมูลในอนาคต
แหล่งที่มา: Cointelegraph
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง