Bitcoin ร่วง 8% เหลือ $93,000 หลังเอเชียรับรู้ผลกระทบสงครามการค้าของทรัมป์

2

ตลาด คริปโทเคอร์เรนซี เผชิญความปั่นป่วนหนัก หลัง Bitcoin (BTC) ร่วงลง 8% สู่ระดับ $93,000 เนื่องจากนักลงทุนในเอเชียตื่นขึ้นมาพบกับข่าว โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรใหม่ต่อ จีน แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งสร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดการเงินทั่วโลก

Bitcoin ร่วง 8% เหลือ $93,000

ทรัมป์เดินหน้าสงครามการค้า กระทบตลาดการเงิน

การร่วงลงของ Bitcoin เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บ ภาษีศุลกากร 10% สำหรับสินค้านำเข้าจาก จีน และ 25% สำหรับสินค้าจาก แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ภายในสัปดาห์นี้ มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นและตลาดคริปโตเข้าสู่ภาวะปรับฐานทันที โดยเฉพาะใน ตลาดเอเชีย ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าระหว่างประเทศโดยตรง

นักวิเคราะห์ตลาดจาก Wall Street เตือนว่ามาตรการภาษีใหม่นี้อาจสร้าง แรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

ตลาดคริปโตดิ่งเหว ETH และ SOL ร่วงหนัก

ไม่เพียงแต่ Bitcoin ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ Ethereum (ETH) ลดลง 20% สู่ระดับ $2,500 ขณะที่ Solana (SOL) ดิ่ง 13% มาอยู่ที่ $184 และ XRP ร่วงลงถึง 28% เหลือเพียง $2

ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าภายใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการชำระบัญชีสถานะ Long ในตลาดฟิวเจอร์สเป็นมูลค่ากว่า $1.3 พันล้าน โดยในจำนวนนี้ $400 ล้าน เป็นการปิดสถานะของ Ethereum และ $300 ล้าน เป็นสถานะของ Bitcoin สะท้อนให้เห็นถึง แรงขายที่รุนแรง และ ความตื่นตระหนกในตลาด

ผู้เชี่ยวชาญเตือน สงครามการค้าอาจทำให้ตลาดเงินดิจิทัลผันผวนรุนแรง

นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ระบุว่า “หากความขัดแย้งทางการค้าขยายตัวไปมากกว่านี้ Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ อาจเผชิญกับความผันผวนที่รุนแรงขึ้น” โดยตลาดอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่แรงขายจะคลี่คลาย

ทางด้านโฆษกของ สหภาพยุโรป กล่าวว่า “ภาษีศุลกากรใหม่จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจทั่วโลก และอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย” ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มเติมในตลาดทุน

สรุป

การที่ Bitcoin ร่วงลง 8% และตลาดคริปโตปรับตัวลงหนักในรอบนี้ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับ มาตรการภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจนำไปสู่ สงครามการค้าเต็มรูปแบบ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แหล่งที่มา: CoinDesk


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้SKALE ก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชนแห่งปี 2025 ดึงดูดนักพัฒนาเกม Web3
บทความถัดไปคดีฟ้องร้อง Pump.fun สะเทือนวงการ หลังพบบริษัทกฎหมายอาจเกี่ยวข้องกับเหรียญ DOGSHIT2