อินเดียกำลังพิจารณาปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หลังจากแนวโน้มของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงใช้มาตรการภาษีที่เข้มงวด ส่งผลให้ตลาดคริปโตในประเทศเผชิญกับความท้าทาย
รัฐบาลอินเดียกำลังทบทวนนโยบายคริปโต
Ajay Seth เลขาธิการฝ่ายเศรษฐกิจของอินเดียเปิดเผยว่า “เรากำลังพิจารณาทบทวนจุดยืนของอินเดียเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจากมีหลายประเทศที่เริ่มเปลี่ยนแปลงแนวทางในการยอมรับและกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล”
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “คริปโทเคอร์เรนซีไม่มีพรมแดน เราจึงต้องกำหนดนโยบายที่เหมาะสมกับบริบทของโลก”
อินเดียยังคงใช้อัตราภาษีคริปโต 30%
แม้จะมีการพิจารณานโยบายใหม่ แต่ในงบประมาณปี 2025 ของอินเดียที่ประกาศเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับภาษีของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึง
- ภาษี 30% สำหรับกำไรจากการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี
- หักภาษี ณ ที่จ่าย (TDS) 1% สำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Virtual Digital Assets (VDA)
ภาษีในระดับสูงนี้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของตลาดคริปโตในอินเดีย
กฎระเบียบที่เข้มงวดต่อแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต
อินเดียได้ใช้มาตรการควบคุมแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่างเข้มงวด โดยในเดือนธันวาคม 2023 หน่วยข่าวกรองการเงินของอินเดีย (FIU) ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยัง 9 แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตต่างประเทศ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบท้องถิ่น
หนึ่งในนั้นคือ Binance ซึ่งถูกปรับเป็นเงิน 188.2 ล้านรูปี (ประมาณ 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการในประเทศต่อไป
แนวโน้มตลาดคริปโตในอินเดีย
แม้ว่าจะมีมาตรการภาษีและกฎระเบียบที่เข้มงวด อินเดียยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้คริปโตมากที่สุดในโลก รายงานล่าสุดระบุว่าชาวอินเดียยังคงให้ความสนใจและใช้งานแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตแบบรวมศูนย์ (CEX) และการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) อย่างต่อเนื่อง
บทสรุป
อินเดียกำลังพิจารณาทบทวนนโยบายคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลก อย่างไรก็ตาม โครงสร้างภาษีที่เข้มงวดและมาตรการกำกับดูแลยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของตลาดคริปโตในประเทศ แม้กระนั้น การพิจารณาทบทวนนโยบายครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอนาคต
แหล่งที่มา: CryptoSlate
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง