DeFi อาจได้รับประโยชน์จากสงครามการค้า: การเงินไร้ศูนย์กลางอาจเป็นทางเลือกใหม่ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน

2

ปัจจุบันสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐฯ, จีน และสหภาพยุโรป กำลังสร้างความไม่แน่นอนในตลาดการเงินทั่วโลก การขึ้นภาษีและมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจทำให้ตลาด คริปโทเคอร์เรนซี เผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin (BTC) และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ได้รับผลกระทบจากความกังวลของนักลงทุนที่ต้องการหาที่หลบภัยจากความไม่แน่นอน

DeFi อาจได้รับประโยชน์จากสงครามการค้า

DeFi กับบทบาทใหม่ท่ามกลางความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ

แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ Decentralized Finance (DeFi) อาจกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจดั้งเดิมได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า แพลตฟอร์ม DeFi มอบอิสระทางการเงินให้กับผู้ใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือรัฐบาล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดด้านกฎระเบียบและการควบคุมจากภาครัฐ

เหตุใดนักลงทุนจึงเริ่มให้ความสนใจ DeFi มากขึ้น

หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของ DeFi คือความสามารถในการให้บริการทางการเงินที่ไร้พรมแดน นักลงทุนสามารถกู้ยืม, ปล่อยสินเชื่อ และซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยไม่ต้องมีตัวกลาง ซึ่งเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการเงินที่เกิดจากมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาล

นอกจากนี้ DeFi ยังช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างโปร่งใสและปลอดภัยมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์

อนาคตของ DeFi ในตลาดโลก

ในขณะที่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมอาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ DeFi อาจกลายเป็นทางเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับนักลงทุนและผู้ใช้ที่ต้องการระบบการเงินที่เสถียรและเป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญของ DeFi ยังคงอยู่ที่การกำกับดูแลและการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

สรุป

สงครามการค้าอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดการเงินทั่วโลก แต่ DeFi อาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้โดยมอบทางเลือกใหม่ที่ไร้ศูนย์กลางและมีความโปร่งใสให้กับนักลงทุน การเติบโตของ DeFi อาจเปลี่ยนโฉมระบบการเงินโลกในอนาคต และกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดั้งเดิมเผชิญกับความไม่แน่นอน

แหล่งที่มา: CoinDesk


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Ethereum กับบทบาทใหม่ใน Wall Street: Etherealize พยายามเชื่อมโลกการเงินกับคริปโต
บทความถัดไปTIGER 21 จัดสรร 6 พันล้านดอลลาร์ในคริปโทเคอร์เรนซี สะท้อนแนวโน้มการลงทุนของมหาเศรษฐี