การประกาศภาษีนำเข้าของทรัมป์ทำให้ตลาดการเงินสั่นคลอน รวมถึงตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่เผชิญกับความผันผวนอย่างหนัก Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ปรับตัวลดลงทันที หลังมีข่าวเกี่ยวกับมาตรการภาษีใหม่จากสหรัฐฯ
มาตรการภาษีของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้า เหล็กและอะลูมิเนียม 25% เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ มาตรการนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าอย่าง แคนาดา, เม็กซิโก และสหภาพยุโรป
ทรัมป์ยังระบุว่า “หากประเทศอื่นเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ สูงถึง 130% สหรัฐฯ จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป” มาตรการนี้ถูกมองว่าเป็น สงครามการค้ารอบใหม่ ซึ่งอาจสร้างความผันผวนในตลาดโลก
ตลาดคริปโตตอบสนองทันที Bitcoin และ Ethereum ร่วงหนักก่อนฟื้นตัว
หลังจากข่าวภาษีดังกล่าวออกมา ราคาของ Bitcoin (BTC) ร่วงจาก $97,000 ลงไปที่ $94,000 ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาที่ $97,826 ในภายหลัง ขณะที่ Ethereum (ETH) ลดลงเหลือ $2,537 ก่อนกลับขึ้นมาอยู่ที่ $2,645
ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดคริปโตยังคงมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเมื่อมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
ดัชนีความกลัวและความโลภลดลง สะท้อนความกังวลของนักลงทุน
ดัชนีความกลัวและความโลภ (Crypto Fear & Greed Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ของตลาด ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ค่าดัชนีลดลงเหลือ 43 จุด จาก 46 จุดในวันก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน
มาตรการภาษีเพิ่มเติมของทรัมป์ และผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ประกาศเก็บภาษี 25% กับแคนาดาและเม็กซิโก และ 10% กับจีน ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นและคริปโตเผชิญกับแรงขายหนัก ล่าสุดมีรายงานว่า อาจมีมาตรการภาษีเพิ่มเติม กับสินค้า เซมิคอนดักเตอร์, น้ำมัน, ก๊าซ, เหล็ก และทองแดง ซึ่งอาจกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโทเคอร์เรนซีอีกระลอก
บทสรุป
การประกาศภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินโลก Bitcoin และ Ethereum ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ แม้ว่าราคาจะฟื้นตัวกลับมาได้ นักลงทุนยังคงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของนโยบายสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
แหล่งที่มา: Cointelegraph
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง