ผู้ก่อตั้ง HashFlare สารภาพผิดในคดีแชร์ลูกโซ่คริปโต มูลค่า 577 ล้านดอลลาร์

6

Sergei Potapenko และ Ivan Turõgin ผู้ร่วมก่อตั้ง HashFlare สารภาพผิดในข้อหาฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสารและการฟอกเงิน หลังจากถูกกล่าวหาว่า หลอกลวงนักลงทุนกว่า 577 ล้านดอลลาร์ ผ่านโครงการขุดคริปโตปลอม

การฉ้อโกง HashFlare ถูกเปิดโปง
การฉ้อโกง HashFlare ถูกเปิดโปง

คดีนี้ถูกดำเนินการโดย กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) และสำนักงานอัยการประจำเขตวอชิงตัน ซึ่งระบุว่า HashFlare ไม่ได้ให้บริการขุดคริปโตจริงตามที่อ้าง แต่ใช้ซอฟต์แวร์ปลอมสร้างผลลัพธ์เพื่อหลอกนักลงทุน

แผนการหลอกลวงของ HashFlare

ระหว่างปี 2015-2019 HashFlare เสนอ สัญญาขุดคริปโทเคอร์เรนซี ให้กับนักลงทุน โดยกล่าวอ้างว่าสามารถทำกำไรจากการขุดเหรียญดิจิทัลได้ แต่ในความเป็นจริง

  • บริษัทสามารถขุด Bitcoin ได้ไม่ถึง 1% ของพลังขุดที่อ้างว่าให้บริการ
  • ข้อมูลรายได้ที่แสดงบนแพลตฟอร์มเป็น ข้อมูลปลอม
  • นักลงทุนนับพันรายถูกหลอกให้เชื่อว่าพวกเขากำลังได้รับผลตอบแทน

เมื่อผู้ใช้พยายามถอนเงิน HashFlare มักจะปฏิเสธคำขอและให้เหตุผลด้านข้อกำหนดของบริษัท หรือ เสนอให้ชำระเงินคืนเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง

การหลอกลวง ICO ‘Polybius’

นอกจาก HashFlare แล้ว Potapenko และ Turõgin ยังดำเนินโครงการ Polybius ซึ่งเป็น การเสนอขายเหรียญเริ่มต้น (ICO) ที่ระดมทุนได้ 31 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะสร้าง ธนาคารดิจิทัลแห่งอนาคต

อย่างไรก็ตาม

  • ไม่มีธนาคารดิจิทัลถูกสร้างขึ้นจริง
  • เงินทุนจากนักลงทุนถูกโอนไปยัง บัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหา

สำนักงานอัยการระบุว่า “แทนที่จะนำเงินไปพัฒนาโครงการ Turõgin และ Potapenko กลับนำไปใช้จ่ายส่วนตัว”

เครือข่ายฟอกเงินและบทลงโทษ

DOJ เปิดเผยว่าเงินที่ได้จากการหลอกลวงถูกฟอกผ่าน ทรัพย์สินอย่างน้อย 75 รายการ, รถยนต์หรู 6 คัน, กระเป๋าเงินคริปโต และ เครื่องขุดคริปโตหลายพันเครื่อง

Potapenko และ Turõgin อาจเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี โดยมีกำหนดตัดสินโทษในวันที่ 8 พฤษภาคม 2025

บทสรุป

คดี HashFlare เป็นหนึ่งใน แชร์ลูกโซ่คริปโตที่ใหญ่ที่สุด และสะท้อนถึงความเสี่ยงของนักลงทุนในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล การพิจารณาคดีนี้เป็นการ ส่งสัญญาณถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น ในการปราบปรามการฉ้อโกงในวงการคริปโต

📌 แหล่งที่มา: Decrypt


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้ผู้บริหารธนาคารวอลล์สตรีทเข้าพบวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ หารือปัญหาการปิดบัญชีคริปโต
บทความถัดไปหุ้น GameStop พุ่งแรง หลังมีข่าวลือเกี่ยวกับการลงทุนใน Bitcoin