อดีตประธาน SEC ชี้ การบังคับใช้กฎหมายคริปโตของหน่วยงาน “ล้มเหลว”

4

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 อดีตประธาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึง การบังคับใช้กฎหมายคริปโตของหน่วยงาน โดยระบุว่าแนวทางปัจจุบัน “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง” และ “ไม่สามารถปกป้องผู้ลงทุนได้”

SEC เผชิญแรงกดดันเกี่ยวกับการกำกับดูแลคริปโต
SEC เผชิญแรงกดดันเกี่ยวกับการกำกับดูแลคริปโต

ความล้มเหลวในการบังคับใช้กฎหมายคริปโต

อดีตประธาน SEC กล่าวถึง “การขาดความโปร่งใสและความเด็ดขาด” ของหน่วยงาน ส่งผลให้ตลาดคริปโตเผชิญกับ ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย และ เปิดช่องให้เกิดการฉ้อโกงและการละเมิดกฎระเบียบ

เขาเน้นว่า “SEC มีหน้าที่ปกป้องผู้ลงทุน แต่การดำเนินงานที่ไร้ประสิทธิภาพกลับทำให้เกิดปัญหามากขึ้น” และแนะนำให้มี แนวทางกำกับดูแลที่ชัดเจนและเป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น

ผลกระทบต่อผู้ลงทุนและอุตสาหกรรมคริปโต

  • ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนลดลง – การขาดกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่มั่นคง
  • ตลาดเผชิญกับความผันผวนสูง – การฟ้องร้องบริษัทคริปโตหลายแห่งโดย SEC ส่งผลให้ราคาเหรียญคริปโตผันผวน
  • นักลงทุนรายย่อยได้รับผลกระทบ – ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มคริปโตจำนวนมากถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการคุ้มครองที่เพียงพอ

ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหา

อดีตประธาน SEC เสนอให้หน่วยงาน พิจารณาแนวทางการกำกับดูแลที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ การฟ้องร้องและการใช้มาตรการลงโทษเพียงอย่างเดียว

เขาเน้นว่า “SEC ควรสร้างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและเปิดโอกาสให้บริษัทคริปโตสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

สรุป

คำวิจารณ์จากอดีตประธาน SEC สะท้อนถึง ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ล้มเหลว ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของตลาดคริปโตในสหรัฐฯ การกำกับดูแลที่เหมาะสมจะเป็นกุญแจสำคัญในการ เสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตในระยะยาว

📌 แหล่งที่มา: Investing.com


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Uminers จับมือ Ledger ยกระดับความปลอดภัย พร้อมเปิดตัวสินเชื่อขุดเหมืองปลอดดอกเบี้ย
บทความถัดไปผลสำรวจชี้ ผู้ถือคริปโตในออสเตรเลียอาจมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้ง