รายงานล่าสุดจาก CoinLedger เปิดเผยว่านักลงทุน คริปโทเคอร์เรนซี ในปี 2024 ได้รับผลกำไรเฉลี่ย 5,482 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคน สะท้อนให้เห็นถึง การเติบโตที่แข็งแกร่งของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
ข้อมูลนี้มาจากการวิเคราะห์ผู้ใช้กว่า 100,000 ราย โดยระบุว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดขยายตัว ได้แก่ การเปิดตัวกองทุน ETF ของ Bitcoin และ การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนสถาบัน ที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม
ตลาดคริปโตขยายตัวต่อเนื่องในปี 2024
ปี 2024 เป็นอีกหนึ่งปีที่สำคัญของคริปโทเคอร์เรนซี มูลค่าตลาดรวม (Total Market Cap) แตะระดับ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแรงหนุนจาก
- กองทุน ETF ของ Bitcoin ที่ได้รับการอนุมัติ ทำให้เงินทุนไหลเข้ามามากขึ้น
- การลงทุนจากสถาบันการเงิน เช่น BlackRock และ Fidelity ที่เพิ่มพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัล
- การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่วางแผนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางของสินทรัพย์ดิจิทัล
นักลงทุนสถาบันเริ่มถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
นอกจากนักลงทุนรายย่อยแล้ว นักลงทุนสถาบันและกองทุนขนาดใหญ่ ก็เริ่มถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนักลงทุนระดับสูง TIGER 21 ได้จัดสรรเงินลงทุน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1-3% ของพอร์ตทั้งหมด เพื่อเข้าสู่ตลาดคริปโต
การเข้ามาของเงินทุนสถาบัน ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด แต่ยังเป็นสัญญาณที่ดีว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังได้รับการยอมรับในวงกว้าง
ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องเฝ้าระวัง
แม้ว่าตลาดคริปโตในปี 2024 จะมีแนวโน้มเติบโต แต่ก็ยังมี ความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ได้แก่
- อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่อาจส่งผลต่อการลงทุน
- การปรับกฎระเบียบของ SEC และหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก
- ภัยคุกคามจากการฉ้อโกงและ Rug Pulls ที่ยังคงเกิดขึ้นในบางโครงการ
Chainalysis รายงานว่า มูลค่าความเสียหายจากการฉ้อโกงในวงการคริปโตปี 2024 อยู่ที่ 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีรูปแบบหลอกลวงใหม่ ๆ เช่น “การฆ่าหมู” (Pig Butchering) ที่เป็นการใช้ความสัมพันธ์ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อลงทุน
บทสรุป
ผลกำไรเฉลี่ย 5,482 ดอลลาร์สหรัฐ ของนักลงทุนคริปโตในปี 2024 ถือเป็น ตัวเลขที่สะท้อนถึงการเติบโตของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงและความผันผวนของตลาด
แหล่งที่มา: Investing.com
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
