Howard Lutnick รับตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขณะ Bitcoin ผันผวนจากนโยบายรัฐบาลใหม่

2

วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติ ยืนยันการแต่งตั้ง Howard Lutnick อดีตซีอีโอของ Cantor Fitzgerald เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 45 Lutnick เป็นผู้สนับสนุนนโยบายการค้าของ ประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งรวมถึงมาตรการภาษีศุลกากรที่เข้มงวดขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ

Howard Lutnick ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์
Howard Lutnick ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์

Lutnick จะเป็นผู้ดูแลหน่วยงานกว่า 50,000 คน ภายในกระทรวงพาณิชย์ โดยรับผิดชอบ นโยบายการค้าต่างประเทศ ภาษีนำเข้า และการส่งเสริมอุตสาหกรรมสหรัฐฯ การแต่งตั้งของเขาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะด้านนโยบายภาษีของรัฐบาลใหม่

นโยบายภาษีศุลกากรและเป้าหมายของรัฐบาล Trump

ในบทสัมภาษณ์ล่าสุด Lutnick เปิดเผยว่า Trump มีเป้าหมายที่จะยกเลิกกรมสรรพากร (IRS) และใช้รายได้จาก ภาษีศุลกากร (Tariffs) แทนภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง Lutnick อธิบายว่า “ถ้าสหรัฐฯ เพิ่มภาษีศุลกากรให้เท่ากับประเทศอื่น ๆ เราจะสามารถสร้างรายได้ถึง 700 พันล้านดอลลาร์ต่อปี” ซึ่งสามารถช่วยลดการขาดดุลและอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงได้

อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ได้รับเสียงวิจารณ์จากนักเศรษฐศาสตร์บางส่วน เนื่องจากอาจเพิ่มต้นทุนสินค้านำเข้า และทำให้ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น

ตลาด Bitcoin ผันผวนหลังการแต่งตั้ง Lutnick

ขณะที่ Lutnick เข้ารับตำแหน่ง ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดย ราคา Bitcoin (BTC) ลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 98,203 ดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

แม้ว่า Bitcoin จะพุ่งขึ้นหลังจาก Trump ชนะการเลือกตั้ง แต่ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 20 มกราคม ตลาดคริปโตกลับเริ่มชะลอตัว นโยบายคริปโตของรัฐบาลใหม่ยังไม่ชัดเจน และยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎระเบียบของสินทรัพย์ดิจิทัล

อีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันตลาดคริปโต คือ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ยังไม่มีการปรับลด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโทเคอร์เรนซี

บทสรุป

การแต่งตั้ง Howard Lutnick เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์สะท้อนถึงแนวทางการค้าของ Trump ที่มุ่งเน้นการใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือหลัก ขณะเดียวกัน ตลาดคริปโตเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนควรจับตาดูการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว

แหล่งที่มา: Finance Yahoo


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้ฤดูกาล Altcoin เริ่มต้นแล้ว! CryptoQuant เตือนนักลงทุนถึงข้อควรระวัง
บทความถัดไปศาลสูงสุดรัสเซียเตรียมจัดประเภทคริปโทเคอร์เรนซีเป็นทรัพย์สินทางกฎหมาย