Binance เตรียมถอดถอน USDT และ Stablecoin ที่ไม่เป็นไปตาม MiCA ภายในสิ้นเดือนมีนาคม

1

Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำของโลก ประกาศเตรียม ถอดถอนเหรียญ Stablecoin ที่ไม่เป็นไปตามกฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets Regulation) ออกจากตลาดยุโรป ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2025

Binance เตรียมปฏิบัติตามกฎ MiCA ถอดถอน USDT, FDUSD และ DAI ในยุโรป
Binance เตรียมปฏิบัติตามกฎ MiCA ถอดถอน USDT, FDUSD และ DAI ในยุโรป

เหรียญ Stablecoin หลักที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ได้แก่ Tether (USDT), First Digital USD (FDUSD) และ DAI โดย Binance แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้เหรียญที่ ผ่านมาตรฐาน MiCA เช่น USD Coin (USDC), Eurite (EURI) หรือเงินยูโร (EUR)

เงื่อนไขสำคัญและระยะเวลาการถอดถอน

Binance เปิดเผยเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  • จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2025 ผู้ใช้ใน EEA (เขตเศรษฐกิจยุโรป) สามารถใช้ Stablecoin ที่ได้รับผลกระทบได้ตามปกติ
  • หลังจากกำหนดเส้นตาย Binance จะ ถอดถอนคู่ซื้อขาย ของเหรียญที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน MiCA
  • อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงสามารถ ฝากและถอนเหรียญ Stablecoin ที่ถูกถอดออก ได้ แต่จะไม่สามารถใช้เพื่อทำธุรกรรมซื้อขายใน Binance ได้

Binance ระบุว่า “เราจะทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้สินทรัพย์ที่ผ่านการรับรองได้อย่างราบรื่น”

MiCA กับผลกระทบต่อตลาด Stablecoin ในยุโรป

กฎระเบียบ MiCA ซึ่งออกโดย สหภาพยุโรป (EU) มีเป้าหมายเพื่อกำกับดูแลตลาด Stablecoin และสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเน้นเรื่อง ความมั่นคงทางการเงินและการปกป้องผู้บริโภค

สำหรับผู้ใช้ Binance ในยุโรป การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อกลยุทธ์การซื้อขาย โดยเฉพาะกับ USDT ซึ่งเป็น Stablecoin ที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในโลก

นักวิเคราะห์มองว่าการเคลื่อนไหวของ Binance อาจ เปิดโอกาสให้ USDC กลายเป็น Stablecoin หลักในยุโรป เนื่องจากเป็นเหรียญที่ผ่านมาตรฐาน MiCA

บทสรุป

การถอดถอน Stablecoin ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน MiCA เป็น ความเคลื่อนไหวสำคัญของ Binance ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มของตลาด Stablecoin ในอนาคต

ผู้ใช้งาน Binance ในยุโรป ควรพิจารณาปรับพอร์ต Stablecoin ของตนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ MiCA ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 มีนาคม 2025

แหล่งที่มา: Crypto News


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Brian Armstrong แนะนำให้สหรัฐฯ ใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรองคริปโตหลัก
บทความถัดไปArthur Hayes ตั้งข้อสงสัยต่อแผนทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ