Arthur Hayes ตั้งข้อสงสัยต่อแผนทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ

17

Arthur Hayes อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ได้ออกมาแสดงความกังขาต่อแนวคิดของ Donald Trump ที่เสนอให้ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Solana (SOL), XRP และ Cardano (ADA) เป็นส่วนหนึ่งของ ทุนสำรองคริปโตเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ

อดีตซีอีโอของ BitMEX แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อแนวคิดของรัฐบาล
อดีตซีอีโอของ BitMEX แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อแนวคิดของรัฐบาล

Hayes แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X โดยกล่าวว่า “นี่เป็นแค่คำพูด ยังไม่มีหลักฐานว่าแผนนี้สามารถทำได้จริง” พร้อมตั้งคำถามถึง ความเป็นไปได้ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินแผนนี้

เขายังเสริมว่า “ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการถือครองคริปโตจริง ๆ เราจะต้องเห็นการดำเนินการที่ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่คำประกาศ”

ตลาดคริปโตยังตอบสนองในเชิงบวก แม้มีข้อกังขา

แม้ว่า Hayes จะมีท่าทีสงสัยเกี่ยวกับแผนทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ แต่ ตลาดคริปโตกลับตอบรับในเชิงบวก โดยหลังจากมีการประกาศแนวคิดนี้ ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 8% และเหรียญ Altcoins หลายตัวมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก

อย่างไรก็ตาม Hayes ยังคงระมัดระวังในแนวทางการลงทุน โดยเขาระบุว่า “แม้ว่าผมจะเชื่อว่า Bitcoin มีศักยภาพในระยะยาว แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะเพิ่มการถือครองโทเคนของตัวเองในเวลานี้”

ความเห็นต่างจากบุคคลในอุตสาหกรรมคริปโต

นอกจาก Hayes แล้ว Changpeng Zhao (CZ) อดีตซีอีโอของ Binance ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเขามองว่า “แผนของสหรัฐฯ อาจช่วยผลักดันให้ Bitcoin และ Ethereum ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์สำรองระดับโลก”

CZ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้จะยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม แต่ความเคลื่อนไหวนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดีต่ออุตสาหกรรมคริปโต”

บทสรุป

แม้ว่าแนวคิดของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการถือครองคริปโตเป็นทุนสำรองจะกระตุ้นให้ตลาดมีการปรับตัวในเชิงบวก แต่ข้อกังขาของ Arthur Hayes สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางการเงินและการดำเนินการของแนวคิดนี้

นักลงทุนควรจับตาดูพัฒนาการของแผนนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการดำเนินการจริง อาจส่งผลต่อแนวโน้มของตลาดคริปโตในระยะยาว

แหล่งที่มา: Bitcoin Sistemi


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Binance เตรียมถอดถอน USDT และ Stablecoin ที่ไม่เป็นไปตาม MiCA ภายในสิ้นเดือนมีนาคม
บทความถัดไปตลาดคริปโตร่วงหนักกว่า 10% แม้มีข่าวดีจากแผนทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ