Arthur Hayes ตั้งข้อสงสัยต่อแผนทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ

4

Arthur Hayes อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ได้ออกมาแสดงความกังขาต่อแนวคิดของ Donald Trump ที่เสนอให้ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Solana (SOL), XRP และ Cardano (ADA) เป็นส่วนหนึ่งของ ทุนสำรองคริปโตเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ

อดีตซีอีโอของ BitMEX แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อแนวคิดของรัฐบาล
อดีตซีอีโอของ BitMEX แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อแนวคิดของรัฐบาล

Hayes แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X โดยกล่าวว่า “นี่เป็นแค่คำพูด ยังไม่มีหลักฐานว่าแผนนี้สามารถทำได้จริง” พร้อมตั้งคำถามถึง ความเป็นไปได้ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินแผนนี้

เขายังเสริมว่า “ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการถือครองคริปโตจริง ๆ เราจะต้องเห็นการดำเนินการที่ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่คำประกาศ”

ตลาดคริปโตยังตอบสนองในเชิงบวก แม้มีข้อกังขา

แม้ว่า Hayes จะมีท่าทีสงสัยเกี่ยวกับแผนทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ แต่ ตลาดคริปโตกลับตอบรับในเชิงบวก โดยหลังจากมีการประกาศแนวคิดนี้ ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 8% และเหรียญ Altcoins หลายตัวมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก

อย่างไรก็ตาม Hayes ยังคงระมัดระวังในแนวทางการลงทุน โดยเขาระบุว่า “แม้ว่าผมจะเชื่อว่า Bitcoin มีศักยภาพในระยะยาว แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะเพิ่มการถือครองโทเคนของตัวเองในเวลานี้”

ความเห็นต่างจากบุคคลในอุตสาหกรรมคริปโต

นอกจาก Hayes แล้ว Changpeng Zhao (CZ) อดีตซีอีโอของ Binance ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเขามองว่า “แผนของสหรัฐฯ อาจช่วยผลักดันให้ Bitcoin และ Ethereum ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์สำรองระดับโลก”

CZ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้จะยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม แต่ความเคลื่อนไหวนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดีต่ออุตสาหกรรมคริปโต”

บทสรุป

แม้ว่าแนวคิดของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการถือครองคริปโตเป็นทุนสำรองจะกระตุ้นให้ตลาดมีการปรับตัวในเชิงบวก แต่ข้อกังขาของ Arthur Hayes สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางการเงินและการดำเนินการของแนวคิดนี้

นักลงทุนควรจับตาดูพัฒนาการของแผนนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการดำเนินการจริง อาจส่งผลต่อแนวโน้มของตลาดคริปโตในระยะยาว

แหล่งที่มา: Bitcoin Sistemi


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Binance เตรียมถอดถอน USDT และ Stablecoin ที่ไม่เป็นไปตาม MiCA ภายในสิ้นเดือนมีนาคม