Méliuz บริษัทฟินเทคที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บราซิล (B3) ได้ประกาศ จัดสรร 10% ของเงินสดสำรองเข้าลงทุนใน Bitcoin (BTC) นับเป็นบริษัทแรกของบราซิลที่นำเงินสำรองเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

แนวทางของ Méliuz สะท้อนถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง คล้ายกับกลยุทธ์ของบริษัทชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น MicroStrategy และ Tesla ที่ถือครอง BTC ในงบดุล
ทำไม Méliuz ถึงเลือกลงทุนใน Bitcoin?
การตัดสินใจครั้งนี้ของ Méliuz เกิดจาก ปัจจัยหลายประการ ที่เกี่ยวข้องกับ เศรษฐกิจและระบบการเงินโลก
- ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: บราซิลเผชิญอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และ Bitcoin ถูกมองว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” ที่สามารถรักษามูลค่าได้ในระยะยาว
- กระจายพอร์ตการลงทุน: การถือครอง Bitcoin นอกจากจะเป็นสินทรัพย์สำรอง ยังช่วย กระจายความเสี่ยงจากสินทรัพย์ดั้งเดิม เช่น เงินสด และพันธบัตรรัฐบาล
- แนวโน้มตลาดที่เติบโตขึ้น: Bitcoin มีแนวโน้มได้รับการยอมรับมากขึ้นทั้งในระดับสถาบันและภาครัฐ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มมูลค่าในอนาคต
“เรามองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงและสามารถป้องกันมูลค่าของเงินสดสำรองในระยะยาวได้” ตัวแทนของ Méliuz กล่าว
บราซิลกับการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้น
บราซิลถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานคริปโตเติบโตอย่างรวดเร็วในลาตินอเมริกา โดยรัฐบาลบราซิลได้ออกกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลและกำลังพัฒนา CBDC (สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางบราซิล)
Méliuz เป็นบริษัทแรกที่ลงทุน Bitcoin อย่างเป็นทางการ แต่ก่อนหน้านี้ ธนาคารขนาดใหญ่ของบราซิล เช่น BTG Pactual และ Nubank ก็ได้ให้บริการซื้อขายและลงทุนในคริปโตแล้ว
ตลาดตอบสนองอย่างไร?
หลังจากประกาศข่าว ราคาหุ้นของ Méliuz (CASH3) ในตลาดหุ้นบราซิลปรับตัวขึ้น 4% ขณะที่ Bitcoin ยังคงเคลื่อนไหวในระดับ 66,000 ดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่า การลงทุนของบริษัทจดทะเบียนใน BTC อาจช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนสถาบันรายอื่น
นักวิเคราะห์จากตลาดการเงินบราซิลเชื่อว่า หากบริษัทจดทะเบียนอื่น ๆ มอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองเพิ่มเติม อาจช่วยดันราคาของ BTC ให้เติบโตต่อไป
แหล่งที่มา: CryptoSlate
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง