สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยกเลิกกฎ IRS สำหรับ DeFi Broker ตามวุฒิสภา

2

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2025 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติ ยกเลิกกฎระเบียบของกรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลต้องรายงานข้อมูลธุรกรรมของผู้ใช้

สภาผู้แทนราษฎรโหวตล้มกฎ IRS ที่กำหนดให้แพลตฟอร์ม DeFi ต้องรายงานข้อมูลธุรกรรม
สภาผู้แทนราษฎรโหวตล้มกฎ IRS ที่กำหนดให้แพลตฟอร์ม DeFi ต้องรายงานข้อมูลธุรกรรม

การตัดสินใจนี้มีขึ้นหลังจาก วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติให้ยกเลิกกฎเดียวกันเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2025 โดยได้รับเสียงสนับสนุน 70 ต่อ 27 ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรโหวตเห็นชอบด้วยคะแนน 292 ต่อ 132

กฎ IRS ที่ถูกยกเลิกคืออะไร?

กฎของ IRS ที่ถูกยกเลิกกำหนดให้ แพลตฟอร์ม DeFi และผู้ให้บริการคริปโตต้องเก็บข้อมูลธุรกรรมของผู้ใช้ เพื่อรายงานต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น รายได้จากการซื้อขายและรายละเอียดของผู้เสียภาษี

ข้อกำหนดนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็น การละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และเป็นอุปสรรคต่อ นวัตกรรมในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

ฝ่ายสนับสนุนการยกเลิกกฎ IRS

  • Mike Carey สมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวว่า “กฎนี้ละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน และจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเทคโนโลยี DeFi ในสหรัฐฯ”
  • French Hill ประธานคณะกรรมการบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎร มองว่ากฎนี้เป็น “การแทรกแซงของรัฐบาลที่เกินขอบเขต ซึ่งอาจผลักดันนวัตกรรมไปยังต่างประเทศแทนที่จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ”

ฝ่ายคัดค้านการยกเลิกกฎ IRS

  • Lloyd Doggett สมาชิกพรรคเดโมแครตเตือนว่า การยกเลิกกฎนี้จะเปิดช่องให้มี “การฟอกเงินและการหลีกเลี่ยงภาษีผ่านแพลตฟอร์ม DeFi”
  • เขาเสริมว่า “นักค้ายาเสพติดและผู้ก่อการร้ายสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเคลื่อนย้ายเงินโดยไม่ถูกตรวจสอบ”

ผลกระทบและขั้นตอนต่อไป

ขณะนี้ ร่างกฎหมายยกเลิกกฎ IRS ได้ถูกส่งไปยัง ประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะลงนามอนุมัติ การยกเลิกกฎนี้อย่างเป็นทางการ

นักวิเคราะห์คาดว่า การตัดสินใจนี้อาจส่งผลดีต่ออุตสาหกรรม DeFi และกระตุ้นให้แพลตฟอร์มคริปโตขยายธุรกิจในสหรัฐฯ มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลอาจพยายามผลักดันมาตรการใหม่ เพื่อควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

บทสรุป

การยกเลิกกฎ IRS ที่กำหนดให้ แพลตฟอร์ม DeFi ต้องรายงานข้อมูลผู้ใช้ ถือเป็น ชัยชนะของภาคอุตสาหกรรมคริปโต แต่ยังเป็นที่ถกเถียงถึงผลกระทบระยะยาวต่อระบบภาษีและการควบคุมการฟอกเงินของสหรัฐฯ

แหล่งที่มา: Cointelegraph


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้LVMH เผชิญคดีความเกี่ยวกับสิทธิบัตรเทคโนโลยี NFT ในนาฬิกาหรู
บทความถัดไปแจ็ค ดอร์ซีย์ แชร์วิดีโอปริศนา: ไมเคิล เซย์เลอร์ แปลงร่างเป็น XRP จุดกระแสคาดเดาในวงการคริปโต