ส.ส.เดโมแครตเรียกร้องให้กระทรวงการคลังยุติแผนกองทุนสำรอง Bitcoin ของทรัมป์

4

Gerald E. Connolly สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ได้ส่งจดหมายถึง Scott Bessent รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล ยุติแผนการสร้างกองทุนสำรอง Bitcoin ของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump โดยให้เหตุผลว่าแผนดังกล่าว ไม่มีประโยชน์ที่ชัดเจนต่อประชาชน และอาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ทางการเมือง

ข้อกังวลเกี่ยวกับการนำ Bitcoin มาใช้ในนโยบายการเงิน
ข้อกังวลเกี่ยวกับการนำ Bitcoin มาใช้ในนโยบายการเงิน

Connolly ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ในการนำ Bitcoin มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ยังมีความผันผวนสูง นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตว่า แนวคิดดังกล่าวอาจเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตเพื่อผลประโยชน์ของ Trump และเครือข่ายทางการเงินของเขา

ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน

Connolly ได้กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่าง Trump กับโครงการสินทรัพย์ดิจิทัลหลายรายการ รวมถึงแพลตฟอร์มคริปโต World Liberty Financial และเหรียญคริปโต TRUMP token ซึ่งมีรายงานว่าทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ Trump ได้รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายกว่า 100 ล้านดอลลาร์

เขาเตือนว่า การนำ Bitcoin มาเป็นทุนสำรองอาจเอื้อผลประโยชน์ทางการเงินให้กับ Trump และพันธมิตรทางการเมืองของเขา ซึ่งขัดต่อจริยธรรมและความโปร่งใสทางการเงินของรัฐบาล

ข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ

Connolly ได้ร้องขอให้ กระทรวงการคลังเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด เกี่ยวกับแผนงานนี้ รวมถึงเอกสารและรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโต นอกจากนี้ เขายังสอบถามว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ตรวจสอบผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าหน้าที่บริหารหรือไม่

บทสรุป

Connolly เน้นย้ำว่า รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการกำหนดนโยบายทางการเงิน โดยเตือนว่าการนำ Bitcoin มาใช้ในกองทุนสำรองของรัฐบาลอาจมีวาระซ่อนเร้นทางการเมืองมากกว่าการเป็นกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

แหล่งที่มา: Cointelegraph


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้วิตาลิก บูเทริน เตือนถึงอันตรายของ AI ที่รวมศูนย์ ย้ำมนุษย์ต้องมีบทบาทสำคัญในการกระจายอำนาจ
บทความถัดไปTHORChain เผชิญความท้าทาย: การเงินไร้ศูนย์กลางปะทะการกำกับดูแล