Infinite Reality สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี AI และเมตาเวิร์ส ประกาศซื้อกิจการของ Napster ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มแชร์เพลงรายแรกของโลก ด้วยมูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์ม Music Metaverse เต็มรูปแบบ เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงและคอนเสิร์ตเสมือนจริง
ยกระดับสู่ Music Metaverse
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ Infinite Reality วางแผนที่จะยกระดับ Napster จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงไปสู่โลกเสมือนจริงที่ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับ คอนเสิร์ตเสมือนจริง อีเวนต์ออนไลน์ และ สินค้าดิจิทัล (Digital Goods) พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้แฟนเพลงสามารถพูดคุยกับศิลปินและซื้อสินค้าจริงหรือดิจิทัลได้โดยตรง
Jon Vlassopulos ซีอีโอของ Napster ที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปหลังจากการซื้อกิจการครั้งนี้ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ว่า “ลองจินตนาการถึงการเข้าสู่พื้นที่เสมือนจริง เพื่อดูโชว์พิเศษกับเพื่อนๆ ได้พูดคุยกับศิลปินที่คุณชื่นชอบ และสามารถซื้อสินค้าดิจิทัลหรือสินค้าจริงของศิลปินได้โดยตรง”
เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “อินเทอร์เน็ตได้พัฒนาจาก Desktop มาสู่ Mobile จาก Mobile สู่ Social และตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม”
พลัง AI ขับเคลื่อน Metaverse
Infinite Reality วางแผนที่จะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยศิลปินในการจัดการแฟนเพลง ผ่านการใช้ AI Agent และ Dashboard วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ศิลปินติดตามพฤติกรรมผู้ใช้งาน รวมถึงการร่วมมือกับทรัพย์สินบันเทิงอื่นๆ เช่น Esports เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้ที่มีส่วนร่วมมากขึ้น
เส้นทางธุรกิจของ Napster
Napster เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 โดยสร้างชื่อเสียงจากการแชร์เพลงแบบ Peer-to-peer (P2P) จนมีคดีความลิขสิทธิ์ที่นำไปสู่การปิดตัวในปี 2001 จากนั้นถูกขายต่อและกลับมาเปิดใหม่ในฐานะแพลตฟอร์มสตรีมเพลง โดยเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นหลายครั้ง รวมถึงบริษัทบล็อกเชนชื่อดังอย่าง Algorand และ Hivemind ที่เคยซื้อกิจการไปก่อนหน้านี้เมื่อปี 2022
เข้าสู่ยุค Web3 และ Blockchain
ตั้งแต่ปี 2022 Napster มุ่งสู่พื้นที่ Web3 โดยได้ประกาศเปิดตัว Napster Token บนบล็อกเชนของ Algorand เพื่อใช้สำหรับซื้อบริการต่างๆ รวมถึงการซื้อกิจการสตาร์ทอัพด้านดนตรี Web3 อย่าง Mint Songs ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ที่ผ่านมา
John Acunto ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Infinite Reality เผยว่า “เรามีเป้าหมายเปลี่ยนอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตจากเว็บ 2 มิติที่แค่คลิก ไปสู่เว็บ 3 มิติที่สามารถพูดคุยและปฏิสัมพันธ์ได้จริง”
คาดว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลง ด้วยการเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้ากับศิลปินในโลกเสมือนจริง
บทสรุป
การเข้าซื้อกิจการ Napster สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่บริษัทด้านเทคโนโลยีเริ่มเข้าสู่วงการ เมตาเวิร์ส และ Web3 มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี Blockchain และ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงการบันเทิงให้มีประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าสนใจและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
แหล่งที่มา: cointelegraph.com
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
