Financial Supervisory Commission (FSC) ของไต้หวันได้เปิดเผยแนวทางสำคัญสำหรับการออก Stablecoin โดยธนาคาร ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเชิงรุกในการกำกับดูแลและสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความมั่นคงให้กับตลาดการเงิน
แนวทางการกำกับดูแล Stablecoin
FSC เน้นว่าการออก Stablecoin จะต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดย Stablecoin เหล่านี้จะต้องได้รับการสนับสนุนด้วย เงินฝากธนาคาร 100% เพื่อสร้างความมั่นคงทางมูลค่า นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดให้ธนาคารรายงานข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการ เช่น มูลค่ารวมของสินทรัพย์ค้ำประกัน และสถานะการเงิน
“แนวทางนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้บริโภคและสร้างความมั่นใจในระบบนิเวศ Stablecoin ที่ปลอดภัยและยั่งยืน” หน่วยงาน FSC กล่าว
สร้างโครงสร้างการกำกับดูแลที่โปร่งใส
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ FSC คือการสร้างกรอบการกำกับดูแลที่โปร่งใสและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่ง Stablecoin จะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก และผู้ให้บริการต้องรายงานข้อมูลการดำเนินการเป็นประจำเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของไต้หวัน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า แนวทางใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญของไต้หวันในการเข้าสู่โลกของ การเงินดิจิทัล (Digital Finance) การกำหนดให้ธนาคารเป็นผู้ออก Stablecoin ช่วยลดความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับการควบคุม
“Stablecoin ที่ออกโดยธนาคารสามารถช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลและเสริมสร้างสถานะของไต้หวันในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการเงินในภูมิภาค” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ความท้าทายและโอกาสในอนาคต
แม้แนวทางดังกล่าวจะเป็นก้าวที่ดี แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า การนำกฎระเบียบไปใช้อาจเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความพร้อมของธนาคารในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการพัฒนาความเข้าใจของผู้ใช้งาน
อย่างไรก็ตาม FSC ยืนยันว่า จะทำงานร่วมกับธนาคารและผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบที่ตอบสนองความต้องการของตลาด
บทสรุป
แนวทางการกำกับดูแล Stablecoin ของ FSC ไต้หวันถือเป็นการวางรากฐานสำหรับการเติบโตของ อุตสาหกรรมการเงินดิจิทัล ที่มีความมั่นคงและโปร่งใส การขับเคลื่อนนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการใช้งาน Stablecoin ในประเทศ แต่ยังช่วยดึงดูดการลงทุนจากนานาชาติในอนาคต
แหล่งที่มา: CryptoSlate
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง