BinanceUS เตรียมกลับมาให้บริการ USD ในปี 2025 หลังระงับการทำธุรกรรมจากแรงกดดัน SEC

6

BinanceUS ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการที่จะกลับมาให้บริการธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในปี 2025 หลังจากระงับบริการในปี 2023 เนื่องจากปัญหาด้านกฎระเบียบ

BinanceUS เตรียมกลับมาให้บริการ

ปัญหาที่เกิดขึ้นในปี 2023

ในเดือนมิถุนายน 2023 BinanceUS ต้อง ระงับการฝากและถอนเงิน USD หลังจากถูกยื่นฟ้องโดย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ในข้อหาดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาตที่เหมาะสม ส่งผลให้การให้บริการทางธนาคารหยุดชะงัก และสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อบริษัท

เป้าหมายการกลับมาในปี 2025

Norman Reed ซีอีโอชั่วคราวของ BinanceUS กล่าวว่า “ผมยังไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนได้ แต่ยืนยันว่าการกลับมานั้นจะต้องเกิดขึ้น และเป้าหมายคือในปี 2025”

Reed เชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟู ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และตอบสนองความต้องการในตลาดสหรัฐฯ

BinanceUS ยังคงให้บริการท่ามกลางวิกฤต

แม้จะเจอปัญหา ด้านกฎระเบียบ BinanceUS ยังคงให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ คริปโตมากกว่า 160 รายการ และบริการ สเตกกิ้ง (Staking) สำหรับสินทรัพย์มากกว่า 20 รายการ ซึ่งยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนคริปโต

ผ่านการตรวจสอบของ SEC

Reed ระบุว่า BinanceUS ได้ผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวดจาก SEC ตลอด 17 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการให้ปากคำและส่งเอกสารจำนวนมาก โดยเขามั่นใจว่า
“กระบวนการตรวจสอบนี้ไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงการกระทำผิดใดๆ”

แผนฟื้นฟูความเชื่อมั่น

Reed สรุปว่าการกลับมาในปี 2025 จะเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นฟูความมั่นคงของตลาดคริปโตในสหรัฐฯ พร้อมกล่าวว่า
“เป้าหมายของเราคือการสร้าง ความเสรีในการลงทุน และสนับสนุน การเติบโตของคริปโต อย่างต่อเนื่อง”

บทสรุป

BinanceUS แม้จะเผชิญกับ แรงกดดันด้านกฎระเบียบ จาก SEC แต่ยังคงดำเนินธุรกิจและเตรียมพร้อมกลับมาสร้างความเชื่อมั่นในตลาดสหรัฐฯ อีกครั้งในปี 2025 การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแพลตฟอร์มในการสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตในระยะยาว

แหล่งที่มา: bitcoinsistemi.com


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
Previous articleเฟดลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี ส่งผลสะเทือนต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
Next articleCoinbase ชนะคดีถอดถอน WBTC ศาลยืนคำตัดสินปฏิเสธคำอุทธรณ์ของ Justin Sun