ภูฏาน ประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย กำลังได้รับความสนใจในระดับนานาชาติจากการใช้ เงินสำรองคริปโทเคอร์เรนซี ในการสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นต้นแบบที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก
รายงานจาก CoinDesk ระบุว่ารัฐบาลภูฏานได้สะสมคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งหวังที่จะใช้ทรัพย์สินดิจิทัลเหล่านี้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศ
ภูฏานสะสมคริปโตฯ เพื่ออนาคต
รัฐบาลภูฏานไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับมูลค่าเงินสำรองคริปโตฯ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันว่าธนาคารกลางของภูฏาน (Royal Monetary Authority) มีบทบาทสำคัญในการบริหารและลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH)
“เรามองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้เป็นโอกาสที่จะช่วยให้เราก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมั่นคง” ตัวแทนจากธนาคารกลางกล่าว
โครงการพัฒนาที่ภูฏานนำเงินสำรองคริปโตฯ ไปใช้นั้น รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
แม้ว่าการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีจะมีศักยภาพสูง แต่ก็ไม่อาจมองข้ามความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของตลาด ทางรัฐบาลภูฏานจึงได้จัดตั้งระบบบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด พร้อมทั้งวางแผนการลงทุนในระยะยาวเพื่อป้องกันผลกระทบจากความผันผวนเหล่านี้
นักวิเคราะห์บางรายมองว่าภูฏานอาจเผชิญความเสี่ยงหากตลาดคริปโตฯ ตกต่ำ แต่ความชาญฉลาดในการจัดการเงินสำรองและการวางแผนที่โปร่งใสอาจช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ตัวอย่างสำหรับประเทศกำลังพัฒนา
แนวทางของภูฏานได้รับความสนใจจากประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังมองหาวิธีลดการพึ่งพาเงินตราต่างประเทศ ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถเพิ่มรายได้และสร้างโอกาสใหม่ในระบบเศรษฐกิจ
“ภูฏานแสดงให้เห็นว่าประเทศขนาดเล็กสามารถใช้คริปโทเคอร์เรนซีในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจได้ แต่ต้องมาพร้อมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม” นักเศรษฐศาสตร์จากรายงานกล่าว
อนาคตที่น่าจับตามอง
การดำเนินการของภูฏานในครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่ยังต้องการพัฒนาศักยภาพทางการเงิน ความสำเร็จของประเทศนี้อาจนำมาสู่การยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
แหล่งที่มา: CoinDesk
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
