ชายชาวอังกฤษเตรียมซื้อที่ฝังกลบขยะ หวังกู้คืน Bitcoin มูลค่า 784 ล้านดอลลาร์

11

James Howells วิศวกรคอมพิวเตอร์จากเมือง Newport ประเทศเวลส์ กำลังพยายามหาทาง ซื้อที่ฝังกลบขยะ หลังจากที่เขาเชื่อว่าฮาร์ดไดรฟ์ของเขา ซึ่งมี Bitcoin จำนวน 8,000 BTC มูลค่ากว่า 784 ล้านดอลลาร์ ถูกทิ้งโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อปี 2013

ซื้อที่ฝังกลบขยะ หวังกู้คืน Bitcoin

ฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกทิ้งโดยไม่ได้ตั้งใจ

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ อดีตแฟนสาวของ Howells ทิ้ง ฮาร์ดไดรฟ์ของเขาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นที่เก็บคีย์ส่วนตัวของ Bitcoin ที่ขุดไว้ในช่วงปีแรก ๆ ของตลาดคริปโต หลังจากรู้ตัวว่าไดรฟ์ได้ถูกทิ้งไปใน หลุมฝังกลบขยะของเมือง Newport เขาได้พยายามขออนุญาตจากทาง สภาเมือง เพื่อขุดค้นหาฮาร์ดไดรฟ์ดังกล่าว

คดีฟ้องร้องและการปฏิเสธจากสภาเมือง Newport

Howells ได้ ยื่นฟ้องสภาเมือง Newport เพื่อขออนุญาตทำการค้นหาฮาร์ดไดรฟ์หรือเรียกร้อง ค่าชดเชย 495 ล้านปอนด์ (646 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แต่คดีของเขาถูก ผู้พิพากษายกฟ้องเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

สภาเมืองให้เหตุผลว่าการค้นหาฮาร์ดไดรฟ์ในที่ฝังกลบอาจก่อให้เกิด อันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นไปได้ยาก ที่จะค้นพบไดรฟ์ที่ยังสามารถกู้ข้อมูลได้

แผนใหม่: ซื้อที่ฝังกลบขยะเพื่อขุดหา Bitcoin

หลังจากความล้มเหลวในชั้นศาล Howells จึงเปลี่ยนแผนโดยมองหานักลงทุน เพื่อซื้อ ที่ฝังกลบขยะของเมือง Newport โดยเขาระบุว่า “ผมได้พูดคุยเกี่ยวกับตัวเลือกนี้กับพันธมิตรด้านการลงทุน และพวกเขามองว่ามันเป็นไปได้”

ขณะนี้ สภาเมือง Newport มีแผนที่จะปิดพื้นที่ฝังกลบขยะในปี 2025-2026 ทำให้ Howells เห็นโอกาสที่จะ เข้าซื้อพื้นที่นี้เพื่อทำการขุดค้นอย่างอิสระ

โอกาสและความเสี่ยงของแผนการค้นหา Bitcoin

แม้ว่าแผนของ Howells จะดูเป็นไปได้ แต่การค้นหาฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกทิ้งไปนานกว่า 12 ปี ยังคงเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกฝังใต้ขยะเป็นเวลานาน อาจ เสียหายจนไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้

หากแผนของ Howells ประสบความสำเร็จ มันอาจกลายเป็น กรณีศึกษาที่น่าจับตามองที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin แต่หากเขาล้มเหลว เงินทุนที่ใช้ไปในการค้นหาอาจต้องสูญเปล่าโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมา

บทสรุป

James Howells ไม่เคย ยอมแพ้ ต่อความพยายามในการกู้คืน Bitcoin ที่สูญหายมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ แผนการล่าสุดของเขาคือการ ซื้อพื้นที่ฝังกลบขยะเพื่อดำเนินการค้นหาด้วยตัวเอง ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าภารกิจนี้จะจบลงด้วย ความสำเร็จหรือเป็นอีกหนึ่งตำนานของ Bitcoin ที่หายไปตลอดกาล

แหล่งที่มา: CoinDesk


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Grayscale ยื่นคำขอ ETF สำหรับ Cardano (ADA) ครั้งแรก เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์คริปโต
บทความถัดไปHolonym เข้าซื้อกิจการ Gitcoin Passport เสริมแกร่งระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล