สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ได้ประกาศคว่ำบาตร Zservers ผู้ให้บริการโฮสติ้งจากรัสเซีย หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม LockBit ซึ่งเป็นเครือข่ายแรนซัมแวร์ที่ใช้ คริปโทเคอร์เรนซี เป็นช่องทางหลักในการเรียกค่าไถ่และฟอกเงิน

LockBit เป็นหนึ่งในกลุ่มแรนซัมแวร์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุด โดยเหยื่อต้องจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin (BTC) หรือ Monero (XMR) ซึ่งช่วยให้ผู้กระทำผิดสามารถซ่อนเส้นทางธุรกรรมและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานทางการ
สหรัฐฯ และพันธมิตรคว่ำบาตร Zservers ผู้ให้บริการโฮสติ้งจากรัสเซีย
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อ Zservers และบริษัทในเครือ XHOST Internet Solutions LP ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ยังมีการอายัดทรัพย์สินและห้ามเดินทางบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 6 ราย
Zservers กับบทบาทในการสนับสนุน LockBit
Zservers ถูกกล่าวหาว่าให้บริการ โฮสติ้งที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้กลุ่ม LockBit สามารถดำเนินการโจมตีแรนซัมแวร์และเรียกค่าไถ่โดยใช้ คริปโทเคอร์เรนซี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตั้งแต่ปี 2019 กลุ่ม LockBit สามารถเรียกค่าไถ่จากเหยื่อทั่วโลกเป็นมูลค่ามากกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้แพลตฟอร์มของ Zservers เป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
LockBit กับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
กลุ่ม LockBit เป็นหนึ่งในเครือข่ายแรนซัมแวร์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ทั่วโลก โดยมีการโจมตีองค์กรระดับสูงหลายแห่ง เช่น
- Boeing
- Industrial and Commercial Bank of China (ICBC)
- Royal Mail ของสหราชอาณาจักร
- ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษ
- สำนักงานกฎหมาย Allen & Overy
LockBit ใช้รูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งเป็นโมเดลที่ช่วยให้แฮ็กเกอร์สามารถซื้อหรือใช้แรนซัมแวร์เพื่อโจมตีเป้าหมายโดยจ่ายค่าธรรมเนียม
ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อต่อต้านแรนซัมแวร์
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 หน่วยงานจาก 10 ประเทศ ได้เปิดปฏิบัติการร่วมกันเพื่อปราบปรามเครือข่ายของ LockBit ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยการบังคับใช้กฎหมายและคว่ำบาตรต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมาย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ว่า “เราจะดำเนินการต่อต้านผู้ให้บริการที่สนับสนุนอาชญากรรมไซเบอร์อย่างไม่ลดละ”
บทสรุป
การคว่ำบาตร Zservers เป็นมาตรการที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามเครือข่ายแรนซัมแวร์ LockBit ซึ่งสร้างความเสียหายต่อองค์กรและโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก การตัดช่องทางสนับสนุนเช่น โฮสติ้งและบริการออนไลน์ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการสกัดกั้นกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้ คริปโทเคอร์เรนซี ในการฟอกเงินและดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
แหล่งที่มา: Cointelegraph
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง