Microsoft เปิดตัวชิปควอนตัม Majorana 1: ผลกระทบต่อความปลอดภัยของ Bitcoin

6

Microsoft ได้ประกาศเปิดตัวชิปควอนตัมตัวแรกของบริษัทในชื่อ Majorana 1 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา คอมพิวเตอร์ควอนตัม หลังจากใช้เวลากว่า 20 ปีในการวิจัยและพัฒนา โดยชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถเหนือกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปหลายเท่า และสามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

Microsoft เปิดตัวชิปควอนตัมตัวแรก มุ่งปฏิวัติการประมวลผล
Microsoft เปิดตัวชิปควอนตัมตัวแรก มุ่งปฏิวัติการประมวลผล

Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft กล่าวถึงการพัฒนานี้ว่า “นี่คือการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ที่เราคาดหวังว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่ปี แทนที่จะต้องใช้เวลาหลายทศวรรษ” โดยเขาย้ำว่าชิปใหม่นี้จะช่วยให้ Microsoft สามารถสร้าง คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่เสถียรและทรงพลัง ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

Bitcoin และคริปโทเคอร์เรนซีอาจได้รับผลกระทบจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม

การเปิดตัวชิป Majorana 1 ทำให้เกิดความกังวลในแวดวง Bitcoin และคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัส คีย์ส่วนตัว (Private Key) ได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปถึงจุดที่สามารถทำลายระบบเข้ารหัสของ Bitcoin ได้ อาจทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลตกอยู่ในความเสี่ยง

จากการวิเคราะห์ของบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต River คาดการณ์ว่า “หากคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถเพิ่มจำนวนคิวบิต (qubits) ได้ถึง 1 ล้านคิวบิตภายในปี 2027-2029 จะทำให้มันสามารถถอดรหัสคีย์ของ Bitcoin ได้ภายในเวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์” ซึ่งหมายความว่าการโจมตีระยะไกลที่อาศัยเทคโนโลยีควอนตัมอาจกลายเป็นความจริงในอนาคตอันใกล้

ความคิดเห็นจากนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ

Adam Back นักวิจัยคริปโตชื่อดัง ได้ให้ความเห็นว่า “ภัยคุกคามจากควอนตัมยังอยู่ห่างออกไปหลายทศวรรษ และยังไม่ใช่เรื่องที่ Bitcoin ต้องกังวลในตอนนี้” อย่างไรก็ตาม เขาแนะนำว่าชุมชน Bitcoin ควรเริ่มเตรียมตัวเพื่อรับมือกับอนาคต

ในขณะที่ Alexander Leishman ซีอีโอของ River เตือนว่า “แม้ว่าความเสี่ยงจากควอนตัมอาจยังไม่ส่งผลกระทบทันที แต่การป้องกันตั้งแต่วันนี้เป็นเรื่องสำคัญ Bitcoin ไม่มีระบบป้องกันหลายชั้นเหมือนกับธนาคารที่ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน ทำให้เป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่าสำหรับการโจมตี”

มาตรการป้องกัน: Bitcoin กำลังมุ่งสู่การเข้ารหัสหลังควอนตัม

เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม ชุมชน Bitcoin กำลังศึกษามาตรการ BIP-360 ซึ่งเป็นแนวทางการอัปเกรดระบบเข้ารหัสให้ทนทานต่อการโจมตีจากควอนตัม โดยเปลี่ยนไปใช้ลายเซ็นดิจิทัลแบบใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

บทสรุป

การเปิดตัวชิปควอนตัม Majorana 1 ของ Microsoft ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในเทคโนโลยีควอนตัม แม้ว่าผลกระทบต่อ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัล อาจยังไม่เกิดขึ้นในทันที แต่การพัฒนาที่รวดเร็วของควอนตัมคอมพิวติ้งเป็นสัญญาณที่ชุมชนคริปโตไม่สามารถมองข้ามได้ การป้องกันล่วงหน้าและการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคต

แหล่งที่มา: Cointelegraph


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้SEC ตั้งหน่วยงานพิเศษตรวจสอบการฉ้อโกงใน AI, บล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี
บทความถัดไปJavier Milei เชิญ Vitalik Buterin จัดงาน Devconnect ในอาร์เจนตินา ท่ามกลางวิกฤตโทเค็น LIBRA