วุฒิสมาชิก Lummis กล่าวหา FDIC ว่ามีความพยายามปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

2

ในจดหมายเปิดผนึกถึงประธานคณะกรรมการประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง (FDIC) Marty Gruenberg วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า FDIC มีการทำลายเอกสารและข่มขู่พนักงานไม่ให้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับ Chokepoint 2.0 ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ชุมชนคริปโตมองว่าเป็นการพยายามจำกัดการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ

วุฒิสมาชิก Lummis กล่าวหา FDIC

ข้อมูลจากผู้เปิดโปง

วุฒิสมาชิก Lummis ระบุว่าเธอได้รับข้อมูลจากผู้เปิดโปงที่เปิดเผยว่า FDIC มีการทำลายเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ต้นปี 2022 และยังมีการกดดันพนักงานไม่ให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ เธอกล่าวในจดหมายว่า “นี่เป็นการกระทำที่ขัดขวางกระบวนการกำกับดูแลและผิดกฎหมายอย่างชัดเจน”

คำสั่งให้รักษาเอกสาร

เพื่อรับมือกับข้อกล่าวหานี้ วุฒิสมาชิก Lummis ได้สั่งให้ FDIC เก็บรักษาเอกสาร การสื่อสาร และข้อมูลเมทาดาทาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเธอเน้นว่าหากมีการทำลายเอกสารหรือการปิดบังข้อมูลเพิ่มเติม เธอจะดำเนินการทางกฎหมายโดยส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อสอบสวน

ปฏิบัติการ Chokepoint 2.0 คืออะไร?

Chokepoint 2.0 เป็นคำที่ใช้ในชุมชนคริปโทเคอร์เรนซีเพื่ออธิบายถึงการกระทำของหน่วยงานกำกับดูแลที่พยายามขัดขวางการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับธุรกิจคริปโต โดยก่อนหน้านี้ Paul Grewal หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Coinbase ได้เผยแพร่จดหมายจาก FDIC ที่ส่งถึงธนาคารเพื่อกดดันให้พวกเขายุติการให้บริการแก่ธุรกิจคริปโต

เสียงจากชุมชนคริปโต

ชุมชนคริปโตแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับพฤติกรรมของ FDIC และเรียกร้องให้มีความโปร่งใสในการดำเนินการด้านการกำกับดูแล John Deaton ทนายความด้านคริปโต กล่าวว่า “ความพยายามของ FDIC ในการกีดกันธุรกิจคริปโตเป็นอันตรายต่อการเติบโตของนวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลในสหรัฐฯ”

บทสรุป

ข้อกล่าวหาของวุฒิสมาชิก Lummis สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและอุตสาหกรรมคริปโต ความโปร่งใสและความยุติธรรมในการกำกับดูแลจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

แหล่งที่มา: Cryptopolitan


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้Jio จับมือ Polygon: นำเทคโนโลยี Web3 สู่ผู้ใช้กว่า 450 ล้านรายในอินเดีย
บทความถัดไปWeb 3 คืออะไร และความเชื่อมโยงกับคริปโตในยุคเทคโนโลยีใหม่