Berachain เปิดตัวเครือข่ายหลัก พร้อมเผชิญข้อพิพาทเกี่ยวกับ Airdrop และการซื้อขายภายใน

6

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 Berachain ซึ่งเป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ได้เปิดตัวเครือข่ายหลัก (mainnet) อย่างเป็นทางการ พร้อมนำเสนอโมเดล Proof of Liquidity ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และจัดการ Airdrop ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของปี Berachain มีจุดเริ่มต้นจากคอลเลกชัน NFT ชื่อ Bong Bears ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่มีธีมเกี่ยวกับกัญชา เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021

Berachain เปิดตัวเครือข่ายหลัก พร้อมเผชิญข้อพิพาทเกี่ยวกับ Airdrop

การจดทะเบียน BERA บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหลัก

หลังการเปิดตัว โทเค็น BERA ได้รับการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหลักหลายแห่ง เช่น Binance, MEXC, Upbit และ Bithumb ซึ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้กับระบบนิเวศของ Berachain

ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ โปรเจกต์นี้มีมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (Total Value Locked – TVL) อยู่ที่ 3.1 พันล้านดอลลาร์ เพียงไม่กี่วันหลังจากการเปิดตัว ทำให้เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดสรร Airdrop และการซื้อขายภายใน

อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับการจัดสรร Airdrop, โทเค็นโนมิกส์ และการขายโทเค็นโดยนักลงทุนรายแรกๆ ซึ่งทำให้ราคาของ BERA ลดลงถึง 63% จากจุดสูงสุดหลังการเปิดตัว

ผู้ใช้บางรายแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการจัดสรร Airdrop ที่ไม่เป็นธรรม และการขายโทเค็นจำนวนมากโดยบุคคลภายใน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

การตอบสนองจากชุมชนและทีมงาน Berachain

ชุมชนของ Berachain ได้เรียกร้องความโปร่งใสและความรับผิดชอบจากทีมงาน เพื่อแก้ไขข้อกังวลเหล่านี้ ทีมงานของ Berachain ได้ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้น และยืนยันความมุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและโปร่งใสสำหรับผู้ใช้ทุกคน

บทสรุป

การเปิดตัวของ Berachain ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่และการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหลัก ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการคริปโทเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทเกี่ยวกับการจัดสรร Airdrop และการซื้อขายภายในได้สร้างความกังวลในชุมชน นักลงทุนควรติดตามการพัฒนาของโปรเจกต์นี้อย่างใกล้ชิด และพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน

แหล่งที่มา: crypto.news


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้การแข่งขัน ETF คริปโต: XRP หรือ Solana ใครจะได้รับอนุมัติก่อน?
บทความถัดไปสภาคองเกรสสหรัฐฯ ถกกฎหมาย Stablecoin มุ่งกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล