เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้บริหารระดับสูงจากธนาคารวอลล์สตรีท รวมถึง Jamie Dimon (JPMorgan Chase), Brian Moynihan (Bank of America), Richard Fairbank (Capital One), Charles Scharf (Wells Fargo), Andrew Cecere (U.S. Bank), Bill Demchak (PNC) และ Bill Rogers (Truist) ได้เดินทางไป วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเข้าร่วมประชุมกับ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อตรวจสอบปัญหาการ ปิดบัญชีธนาคารของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี และ อุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น อุตสาหกรรมอาวุธปืน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการปิดบัญชีเหล่านี้อาจขัดต่อหลักการความเป็นธรรมทางการเงิน
ข้อกล่าวหาของทรัมป์และการโต้กลับของธนาคาร
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยกล่าวหาว่า Bank of America มีการปิดบัญชีธุรกิจ ด้วยเหตุผลทางการเมือง อย่างไรก็ตาม Brian Moynihan ซีอีโอของธนาคาร ปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า “เราบริการธนาคารให้กับทุกคน ขอบคุณ”
ในขณะที่ธนาคารยืนยันว่า ไม่มีอคติทางการเมือง ในการปิดบัญชี ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ คริปโทเคอร์เรนซีและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ยังคงร้องเรียนว่าพวกเขา ถูกปิดบัญชีโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรม
Jamie Dimon เรียกร้องความโปร่งใส
Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase เรียกร้องให้มีความ โปร่งใสมากขึ้นในกระบวนการปิดบัญชี โดยกล่าวว่า “ผมคิดว่าเราควรได้รับอนุญาตให้บอกคุณ… เมื่อเรารายงานสิ่งต่าง ๆ รัฐบาลกลางควรทราบเกี่ยวกับมัน และควรมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องทำและสิ่งที่เราไม่ต้องทำ”
เขาเน้นย้ำว่า “เราบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว เราจำเป็นต้องแก้ไขมัน”
ปฏิกิริยาของวุฒิสมาชิกและหน่วยงานกำกับดูแล
วุฒิสมาชิก Tim Scott และ Elizabeth Warren แสดงความกังวลเกี่ยวกับ ความโปร่งใสของธนาคาร ในกระบวนการปิดบัญชี และยืนยันว่ารัฐบาลต้องดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องธุรกิจจากการปิดบัญชีโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
วุฒิสมาชิก Kevin Cramer ได้เสนอ ร่างกฎหมาย Fair Access to Banking Act ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ การป้องกันการเลือกปฏิบัติทางการเงิน และห้ามไม่ให้ธนาคารปิดบัญชี เฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม
ด้าน Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวว่า “ผมกังวลเกี่ยวกับจำนวนธุรกิจที่รายงานว่าถูกปิดบัญชี” และระบุว่า ธนาคารกลางกำลังทบทวนแนวทางปฏิบัติของธนาคารเกี่ยวกับเรื่องนี้
อนาคตของอุตสาหกรรมคริปโตและการเงิน
ปัญหาการปิดบัญชีของธุรกิจคริปโตและอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชนในสหรัฐฯ ขณะที่ กฎหมายและข้อบังคับทางการเงิน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาด
บทสรุป
การประชุมระหว่างผู้บริหารธนาคารวอลล์สตรีทและวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นถึง ความขัดแย้งระหว่างภาคธนาคารและอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งยังคงเผชิญปัญหาด้านการเข้าถึงบริการทางการเงิน การเรียกร้องให้ มีความโปร่งใสและมาตรฐานที่ชัดเจนขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นธรรมในระบบการเงินของประเทศ
📌 แหล่งที่มา: Cryptonews
คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง