XRP ถูกถอดจากรายชื่อคริปโตที่ได้รับอนุมัติในฮ่องกง กระทบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

3

สำนักงานกำกับดูแลหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) ได้ประกาศรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่ได้รับอนุมัติสำหรับการซื้อขายในตลาดที่มีการกำกับดูแลของฮ่องกง แต่ XRP ซึ่งเป็นโทเค็นของ Ripple ถูกถอดออกจากรายการนี้ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและผู้ติดตามสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก

XRP ถูกถอดจากรายชื่อคริปโตที่ได้รับอนุมัติในฮ่องกง

คริปโตที่ได้รับอนุมัติและข้อจำกัดของ SFC

ในประกาศของ SFC สินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุมัติให้ซื้อขายภายใต้กฎระเบียบในฮ่องกง ประกอบด้วย Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) แต่ไม่มีรายชื่อของ XRP และเหรียญทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่า XRP จะไม่สามารถซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับการอนุมัติจาก SFC ได้ การตัดสินใจนี้อาจเป็นผลมาจากคดีความระหว่าง Ripple และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ที่ยังดำเนินอยู่

ปฏิกิริยาจากชุมชนคริปโตและ Ripple

หลังจากที่ XRP ไม่ได้รับการอนุมัติให้ซื้อขายในตลาดที่ถูกกฎหมายของฮ่องกง นักวิเคราะห์ตลาดและผู้สนับสนุน XRP ต่างแสดงความไม่พอใจ โดยมองว่าการที่ XRP ไม่ได้รับการยอมรับอาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของสินทรัพย์ดังกล่าวในตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตาม ฝ่าย Ripple ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้

อนาคตของ XRP ในตลาดโลก

แม้ว่า XRP จะไม่อยู่ในรายชื่อของ SFC แต่ก็ยังสามารถซื้อขายในแพลตฟอร์มที่ไม่มีการกำกับดูแลของฮ่องกงและตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก นักลงทุนยังคงจับตามองการพิจารณาคดีของ SEC และแนวโน้มในตลาดสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลต่อ XRP ในอนาคตอย่างไร

สรุป

การที่ XRP ไม่ได้รับการอนุมัติจาก SFC ในฮ่องกง อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของสินทรัพย์ในตลาดเอเชีย และทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง อย่างไรก็ตาม XRP ยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และนักลงทุนกำลังรอคอยความชัดเจนเพิ่มเติมจาก Ripple และหน่วยงานกำกับดูแล

📌 แหล่งที่มา: CryptoSlate


คำเตือนความเสี่ยง:
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำเพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นความรับผิดชอบของผู้ลงทุนเอง
บทความก่อนหน้านี้คดีฟ้องร้อง Pump.fun สะเทือนวงการ หลังพบบริษัทกฎหมายอาจเกี่ยวข้องกับเหรียญ DOGSHIT2
บทความถัดไปDeFi ปี 2025: บัญชีอัจฉริยะและการซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วย AI